สธ.ลำปางระบุ วัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วง จากไวรัสโรตา อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อนำเข้า

สาธารณสุขจังหวัดลำปางระบุ วัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรตา อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อนำเข้าสู่แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคฯ แนะประชาชนใช้มาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวถึงกรณีที่มีการนำเสนอข่าวในโซเซียลมีเดีย เกี่ยวกับโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรตา และมีความเข้าใจผิดว่าวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว มีอันตรายกับคนไข้นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปางขอให้ข้อมูลว่า วัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรตา มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และมีใช้ในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างเตรียมขยายการให้บริการ วัคซีนป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรตา ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่ให้บริการอยู่ในสองจังหวัด คือสุโขทัยและเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่นำร่องการให้บริการวัคซีนดังกล่าว ซึ่งได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง โดยพาบุตรหลานมารับบริการวัคซีนดังกล่าวเป็นอย่างดี ส่งผลให้เด็กป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วง ที่ต้องนอนโรงพยาบาลลดลงเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อนำวัคซีนโรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรตา เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ แล้วจะนำเข้าสู่แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศต่อไป ทำให้ขณะนี้ยังไม่มีให้บริการในโรงพยาบาลรัฐทั่วไป แต่มีให้บริการแบบมีค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย หรือโรงพยาบาลของรัฐบางแห่ง

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า คำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันโรค คือ ใช้มาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ได้แก่ รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ด้วยความร้อนและสะอาด, ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกัน และหมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ทั้งก่อนและหลังปรุงอาหาร และภายหลังการใช้ห้องน้ำ นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนหมั่นสังเกตอาการ หากเริ่มมีไข้ อาเจียน หรืออุจจาระร่วง ควรหยุดเรียน หยุดงาน หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาด ดื่มน้ำเกลือแร่ หรือสารละลายเกลือแร่ เพื่อทดแทนสารน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป ไม่ควรซื้อยาฆ่าเชื้อมากินเอง เพราะโรคนี้สามารถหายได้เอง แต่หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น อาเจียน หรือถ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ให้รีบพบแพทย์โดยเร็ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น