มอบเกียรติบัตรยกย่อง 7 ฮีโร่ ช่วยกู้ชีวิตหนุ่มโรงแรม หลังช็อคหัวใจหยุดเต้น กลางสนามบินเชียงใหม่ จนปลอดภัย

จากกรณีที่มี หนุ่มพนักงานโรงแรมหมดสติหัวใจหยุดเต้นกลางสนามบินเชียงใหม่ โชคดีเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานตระเวนรักษาความปลอดภัยช่วยทำ CPR จนฟื้นคืนชีพเมื่อวันที่ 6 ม.ค.61 ที่ผ่านมานั้น อ่านข่าวย้อนหลัง 

วันนี้ (26 ม.ค.61) ทาง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ได้จัดพิธีมอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชู 7 ฮีโร่ ที่ช่วยยื้อชีวิตผู้ป่วยดังกล่าว ณ ห้องประชุมอาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผศ.นพ.เจษฎา สิงห์เวชสกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นผู้มอบเกียรติบัตร

เมื่อวันที่ 26 ม.ค.61 รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช.จัดอบรมให้ความรู้ระยะสั้นเรื่อง การช่วยฟื้นคืนชีพ CPR DAY ประจำปี 2561 เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 400 คน ได้พัฒนาทักษะความรู้เทคนิคด้านการช่วยฟื้นคืนชีพแก่ผู้ป่วยและประชาชน พร้อมกันนี้ได้มีพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่บุคลากรของท่าอากาศ ยานเชียงใหม่ จำนวน 7 คน ที่สามารถช่วยฟื้นคืนชีพให้กับหนุ่มพนักงานโรงแรมที่หมดสติ หัวใจหยุดเต้นกลางสนามบิน โดยการทำการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน และใช้เครื่องช็อคไฟฟ้าอัตโนมัติ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.61 ที่ผ่านมา

สำหรับการอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support:BLS) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้พนักงานและผู้ที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีความรู้เบื้องต้นในการช่วยเหลือผู้ป่วยขั้นต้น และสามารถใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า ที่ติดตั้งอยู่บริเวณต่างๆ ในอาคารผู้โดยสารได้ อันจะเป็นการช่วยชีวิตผู้ป่วย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ต่อไป

ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์ มช. อดีตรอง ผอ.รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ และกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดเผยว่า พื้นฐานการช่วยฟื้นคืนชีพ (การปั๊มหัวใจ) ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากในชีวิตประจำวัน เพราะไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าที่เผชิญอยู่จะเกิดอะไรขึ้น จากเดิมเมื่อเกิดเหตุการณ์ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น จะถูกนำส่งมายัง รพ.ทันที โดยปราศจากการช่วยเหลือ ทำให้อัตราการรอดชีวิตน้อยมาก (ประมาณ 1%)

ดังนั้นการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) คือการปฏิบัติเพื่อช่วยชีวิตคนหัวใจหยุดเต้นหรือ คนที่หยุดหายใจอย่างกะทันหัน โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์แต่อย่างไร เพียงใช้แรงมือกดที่หน้าอก และเป่าลมเข้าปากผู้ป่วย (แนะนำว่าไม่เป่าปากก็ยังช่วยได้ หากไม่สะดวกใจ) ก็สามารถทำให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่ได้ ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญในการรอดชีวิตของผู้ป่วย หากเริ่มต้นช่วยได้เร็ว โอกาสการรอดชีวิตจะยิ่งมากขึ้น หากเริ่มหลังจาก 10 นาทีขึ้นไป ผู้ป่วยจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตได้เลย ดังนั้น รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการสอนจัดอบรมการช่วยชีวิตพื้นฐาน (ปั๊มหัวใจ) เพื่อให้ประชาชนทั่วไป มีความรู้ในการช่วยเหลือและขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเพิ่มการรอดชีวิตของผู้ป่วยจนสามารถมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้

ด้าน ผศ.นพ.บวร วิทยชำนาญกุล อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน เลขานุการกรรมการการช่วยฟื้นคืนชีพ คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเสริมว่า โดยทั่วไปนั้นภาวะหัวใจหยุดเต้นเป็นภาวะที่เกิดขึ้นกะทันหัน ไม่มีอาการหรือสัญญาณเตือนแต่อย่างใด ไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ มักเกิดในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ โดยเฉพาะโรคหัวใจขาดเลือด ภาวะนี้เกิดขึ้นนอก รพ.ได้ถึง 90 % ประชาชนจึงมีบทบาทอย่างยิ่งในการมีส่วนร่วม และช่วยให้ผู้ป่วยรอดชีวิต โดยมีปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การรับรู้ว่าผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น และรีบโทรแจ้งระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หมายเลขโทรศัพท์ 1669 , การช่วยปั๊มหัวใจอย่างรวดเร็ว, การใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator หรือที่เรียกสั้นๆว่า AED) เป็นต้น

ทั้งนี้ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เป็น รพ.แนวหน้าระดับประเทศ มีพันธกิจที่จะช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากภาวะการเจ็บป่วย ได้ดำเนินการจัดโครงการพัฒนาการช่วยฟื้นคืนชีพใน รพ. มานานกว่า 8 ปี โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาทางรพ.มหาราช ฯ ได้มอบเครื่องช็อคไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED) ให้แก่ สนามบินนานาชาติ จ.เชียงใหม่ , วัดพระธาตุดอยสุเทพ, ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ,สถานีรถไฟ จ.เชียงใหม่ ,สถานขนส่งอาเขต จ.เชียงใหม่ ฯลฯ

พร้อมจัดให้มีการจัดอบรมสำหรับประชาชน ในรูปแบบอบรมเชิงปฏิบัติการ 2 ชม. เพื่อให้มีการนำความรู้ไปใช้ได้จริง โดยได้ใช้รูปที่เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งมีการอบรมในระยะเวลาสั้นให้กับประชาชนทุกระดับ โดยรูปแบบในการอบรมจะมีการสอนปั๊มหัวใจ การช่วยหายใจ และการใช้เครื่อง AED เพื่อให้ประชาชนดูแลตัวเองเบื้องต้นก่อน ที่บริการการแพทย์ฉุกเฉิน EMS จะมาถึง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสการรอดชีวิต และลดความพิการแก่ผู้ป่วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น