วันที่ 27 มกราคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้ต้นงิ้วที่ออกดอกสีส้มเต็มต้นมองดูสวยงามตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ เริ่มร่วงหล่นลงมาจากต้นแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ออกดอกเบ่งบานมาได้ระยะหนึ่ง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าย่างเข้าสู่ช่วงปลายฤดูหนาวที่ใกล้จะเปลี่ยนผ่านเป็นฤดูแล้วในเวลาระยะเวลาอันใกล้นี้แล้ว โดยดอกงิ้วที่ร่วงหล่นลงมานั้น ไม่ได้เสียเปล่าแต่อย่างใด เพราะเกสรของดอกงิ้วนั้นเป็นหนึ่งในวัตถุดิบประกอบอาหารของผู้คนในภาคเหนือ ด้วยการนำไปตากแห้งก่อนประมาณ 2 วัน แล้วจึงนำไปเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร เช่น น้ำเงี้ยว,แกงแค เป็นต้น เก็บไว้ใช้ในครัวเรือนหรือขายก็ได้ ทำให้ในช่วงที่ดอกงิ้วร่วงหล่นจะพบเห็นผู้คนต่างพากันเข้าไปเก็บได้ทั่วไป
ขณะที่ย่านคำเที่ยง ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นจุดหนึ่งที่มีต้นงิ้วยืนต้นอยู่จำนวนมาก พบว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้มีเด็กนักเรียนใช้เวลาว่างพากันเดินเก็บดอกงิ้วที่ร่วงหล่นอยู่ตามพื้นและข้างทางกันอย่างขะมักเขม้น โดยจากการสอบถามเด็กหญิงดาวพระศุกร์ ไสยะกร อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 และ เด็กหญิงวิไลพร อินทรส อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และอาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงกับย่านดังกล่าวนี้ บอกว่า ช่วงนี้พบเห็นดอกงิ้วเริ่มร่วงหล่นเป็นจำนวนมากแล้ว จึงอาศัยช่วงเวลาว่างวันหยุดออกมาเดินเก็บดอกงิ้วเพื่อนำกลับไปให้พ่อแม่ตากแห้งและเอาไปขายหารายได้เสริมให้ครอบครัว โดยทำเช่นนี้ต่อเนื่องมาทุกปีมาได้ 3 ปีแล้ว และวันนี้เป็นครั้งแรกของปีนี้ที่ได้ออกมาเก็บ เพราะดอกงิ้วเพิ่งเริ่มร่วงหล่น ปกติจะเก็บได้วันละประมาณ 1-2 กิโลกรัม ซึ่งหลังจากที่เก็บรวบรวมดอกงิ้วได้แล้ว จะนำกลับบ้านไปแกะเอาแต่เฉพาะเกสรด้านในของดอกงิ้วแล้วตากแห้งไว้ประมาณ 2-3 วัน จากนั้นจะนำไปขายให้พ่อค้าที่ตลาดในราคากิโลกรัมละประมาณ 100-200 บาท และบางส่วนเก็บไว้ปรุงอาหารในครอบครัว
สำหรับต้นงิ้วนั้น จัดว่าเป็นสมุนไพรอย่างหนึ่ง โดยที่ดอกงิ้ว มีสรรพคุณ ได้แก่ ช่วยห้ามเลือด รักษาแผล ฝีหนอง บรรเทาอาการท้องเดิน บิดมูกเลือด และช่วยขับปัสสาวะ ส่วนรากหรือเปลือกราก ของต้นงิ้ว ใช้สมานแผล ห้ามเลือด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการฟกช้ำบวมจากการกระแทก ,รากเป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยให้อาเจียน ,ผลอ่อนใช้บำบัดรักษาแผลเรื้อรังในไต และเมล็ดใช้เป็นยาร่วมกับพิมเสน รักษาโรคหนองในเรื้อรัง
ร่วมแสดงความคิดเห็น