รมช.เกษตรฯ ชี้เจาะอุโมงค์แม่งัด-แม่กวงกรมชลเอาอยู่ ห่วงป่าต้นน้ำไม่มีสร้างตะกอนลงเขื่อนมากสั่งเร่งให้ศึกษา

รมช.เกษตรฯ ชี้เจาะอุโมงค์แม่งัด-แม่กวงกรมชลเอาอยู่ ห่วงป่าต้นน้ำไม่มีสร้างตะกอนลงเขื่อนมากสั่งเร่งให้ศึกษา สั่งสร้างเครือข่ายทั้งลุ่มน้ำปิงให้มีแหล่งน้ำถึงระดับไร่นา เร่งทำตลอดทั้งปีเพื่อถวายในหลวง ร.9 วันที่ 5 ธันวา จัดงานยิ่งใหญ่
ที่ห้องประชุมสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะฯ ร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง นายชยันต์ เมืองสง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และนายวิทย์ วงษ์กมลชุณห์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 1 นำเสนอความก้าวหน้า ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการแก้ไข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 1 ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างทั้ง 2 สัญญา และตัวแทนผู้รับจ้างของงานจ้างก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด – แม่กวง และช่วงแม่แตง – แม่งัด ทั้ง 4 สัญญา
นายวิทย์ วงษ์กมลชุณห์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 1 กล่าวว่า สืบเนื่องจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูนมีความต้องการใช้น้ำสูงกว่าปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ปัจจุบันขาดแคลนน้ำเฉลี่ยปีละ 137 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้าจะขาดแคลนน้ำถึงปีละ 173 ล้าน ลบ.ม. โดยการใช้น้ำด้านการเกษตร การเติบโตด้านการท่องเที่ยว การขยายตัวของอุตสาหกรรมและการขยายตัวของชุมชน ราษฎรจึงขอให้แก้ไขปัญหาน้ำอย่างเร่งด่วน กรมชลประทานได้เสนอโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธาราเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ผอ.สำนักก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ 1 กล่าวต่อว่า สำหรับในรายละเอียด โครงการฯ นี้มีระยะทางยาว 49 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ช่วง ผ่าน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่แตง อำเภอสันทราย และอำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งมีการก่อสร้าง 5 รายการใหญ่ รายการที่ 1 การก่อสร้างประตูระบายน้ำแม่ตะมาน บริเวณลำน้ำแม่แตง เพื่อผันน้ำเข้าสู่อุโมงค์ หมายเลข 2 ที่เชื่อมแม่แตง – แม่งัด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอุโมงค์ 4 เมตร ยาว 25.624 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำผ่านอุโมงค์สูงสุดถึง 28.50 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อนำน้ำไปสู่เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จากนั้นก็มีอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่งัด – แม่กวง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอุโมงค์ 4.20 เมตร ยาว 22.975 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำผ่านอุโมงค์สูงสุด 26.50 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีการสร้างท่อส่งน้ำจากเขื่อนแม่งัดมายังแม่แตง ความยาว 26 กิโลเมตร
“ความคืบหน้าการก่อสร้างตามโครงการฯ การก่อสร้างในช่วงแม่แตง – แม่งัด ในสัญญาที่ 1 กม.0+000 – 13+600 ความยาว 13.600 กม. ผู้รับจ้างคือ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด มีผลงานก่อสร้างสะสม 12.035 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสัญญาที่ 2 กม. 13+600 – 25+624.378 ความยาว 12.024 กม. ผู้รับจ้างคือ บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) มีผลงานก่อสร้างสะสม 4.107 เปอร์เซ็นต์ ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างในช่วงแม่งัด – แม่กวง สัญญาที่ 1 กม.0+000 – 12+500 ความยาว 12.500 กม. ผู้รับจ้างคือ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ มีผลงานก่อสร้างสะสม 11.556 และสัญญาที่ 2 กม.12+500 – 22+975 ความยาว 10.476 กม. ผู้รับจ้างคือ บมจ. ยูนิคเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น มีผลงานก่อสร้างสะสม 40.174 เปอร์เซ็นต์” นายวิทย์ วงษ์กมลชุณห์ ผอ.สำนักก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ 1 กล่าว
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการรับฟังรายงาน ว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดไม่ใช่เรื่องเทคนิค ไม่ใช่เรื่องวิศวกรรม เชื่อมือทางกรมชลประทานในเรื่องวิศวกรรม ในเรื่องเทคนิค ในเชิงเศรษฐกิจ โครงการการผ่านการกลั่นกรองมามากกว่า 20 ปี แม้ว่างานทางด้านเทคนิคจะยากหน่อยแต่ก็เชื่อมั่นมากว่าทำได้ แต่สิ่งที่เป็นห่วงจากการเดินทางไปในพื้นที่ต้นน้ำต่างๆ พบว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินทำให้ป่าอยู่ร่วมไม่ได้ สิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 รับสั่งเอาไว้ว่า คนควรจะอยู่ร่วมกับป่า เพราะข้อเท็จจริงคนจะไปอยู่ที่ไหนจะถูกเปลี่ยนเป็น ข้าวโพด เปลี่ยนเป็นรีสอร์ท เป็นกิจกรรมอะไรมากมาก แล้วป่าก็อยู่ไม่ได้ ตะกอนดินที่มากับน้ำน่ากลัวมาก
“ตะกอนดินก็จะมาทำให้เขื่อนตื้นเขิน แล้วความสามารถในการเก็บน้ำก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ความพยายามที่เราจะเก็บน้ำไว้แก้ปัญหาวิกฤติขาดแคลนในช่วงแล้งก็จะน้อยลงไปทุกปี เพราะตะกอนแต่ละปีมันน่ากลัวมาก จึงมองว่าทุกวันนี้มีเครือข่ายลุ่มน้ำแม่กวงที่เกิดจากศูนย์การศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประสบการณ์จากแนวพระราชดำริ จากห้วยฮ่องไคร้ ได้สร้างคนทุกกลุ่ม สร้างนักวิชาการในมหาวิทยาลัย สร้างประชาชน สร้างแกนนำ สร้างนักธุรกิจ สร้างข้าราชการที่มีประสบการณ์ที่จะจัดการลุ่มน้ำ ก็จะให้กรมชลประทานเป็นแม่งานในการที่จะขยายเครือข่ายจากแม่น้ำกวงมาให้เต็มทั้งพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปิง ซึ่งมีพื้นที่มากกว่าแม่กวงหลายเท่า นั่นหมายความว่าต้องใช้พลังของทุกภาคส่วนสามัคคีกันเป็นอย่างมาก เป้าหมายของการสร้างเครือข่ายลุ่มน้ำก็เพื่อจะรักษาความสมบูรณ์ของน้ำ” รมช.เกษตรฯ กล่าว

นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร กล่าวต่อว่า งานที่ฝากทั้งหมดมี 4 งาน จะนำมาบูรณการรวมกัน โดยงานแรกจะต้องสร้างเครือข่ายจัดการลุ่มน้ำให้แข็งแรงทุกภาคส่วนให้ได้ งานที่ 2 ประสานสถาบันวิจัยต่างๆ เพื่อร่วมกันกับกรมชลประทานในการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบจากการที่มีตะกอนมากในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด งานที่ 3 ทำอย่างไรให้เกิดระบบเก็บกักน้ำอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีประชาชนมีส่วนร่วมในการเก็บน้ำ ซึ่งพระองค์ท่านได้ทำตัวอย่างมาให้ดูแล้วและเรียกว่า ทฤษฎีใหม่ขั้นก้าวหน้า คือมีทั้งอ่างใหญ่ อ่างกลาง อ่างเล็ก มีแหล่งน้ำประจำไร่นา เพียงแค่ปั้นคันนาก็กลายเป็นแหล่งเก็บน้ำแล้ว หรือไม่ก็สร้างฝาย สร้างคลอง สร้างหนองในพื้นที่ของตัวเอง เมื่อชาวบ้านทำแบบนี้ร่วมกันเป็นเครือข่ายจะได้ปริมาณน้ำมากกว่าเขื่อนขนาดใหญ่ที่รัฐสร้างด้วยด้วยซ้ำ ส่วนงานที่ 4. ต้องศึกษาถึงพื้นที่ป่าต้นน้ำ ในการที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อให้ได้น้ำที่เพิ่มขึ้น เรื่องนี้ศูนย์การศึกษาเพื่อการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ซึ่งมีความเข้าใจ มีตัวอย่างแล้ว ให้มาร่วมดำเนินการ
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีตัวอย่างแล้ว พระองค์ท่านทำให้ดูแล้ว เรื่องนี้ต้องขยายเป็นเครือข่ายให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม หลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ทำแล้วแต่ยังไม่เป็นระบบ แต่ครั้งนี้ต้องทำให้เกิดเป็นระบบทั้งลุ่มน้ำ และทำกันจริงๆ ทั่วทั้งโลกเขาได้ยกย่องพระมหากษัตริย์เราตั้ง 40 กว่าเรื่อง อยากให้ทำกันจริงๆ ทั้ง 40 กว่าเรื่อง มีการดำเนินการอย่างจริงจังทั้งลุ่มน้ำปิงกว่า 4 ล้านไร่ ตามที่กล่าวมาข้างต้นในการที่ประชาชนมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง จะป็นการจัดนิทรรศการที่เป็นของจริง ไม่ใช่จัดนิทรรศการบนตึกแล้วก็รื้อออก เฉลิมฉลองครั้งใหญ่สัก 3 วัน ช่วงวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ในหลวงรัชการที่ 9 ทำอะไรไว้ให้คนในลุ่มน้ำปิงเยอะมาก อยากให้ทุกคนทำด้วยตนเองและเป็นการทำเพื่อถวายพระองค์ท่านในวันที่ 5 ธันวาคม 61 โดยจะเป็นการเตรียมการและร่วมกันทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี จะเป็นบุญอย่างยิ่งใหญ่ ประโยชน์ที่ได้ไม่ได้ตกที่ใครแต่อยู่กับประชาชนทั้งลุ่มน้ำปิงเอง รวมถึงพื้นที่ใต้ลุ่มแม่น้ำปิงลงไปด้วยที่จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากความร่วมมือของประชาชนทั้งลุ่มน้ำครั้งนี้” นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น