โครงการ”อีกนิคพิชิตเอดส์” เผยวัยรุ่นไทยกว่าครึ่ง เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี

โครงการ”อีกนิคพิชิตเอดส์” มูลนิธิเอดดส์แห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่มรักไทยพาวเอวร์ที และผู้หญิงที่อยู่ร่วกับเอชไอวี ได้ลงพื้นที่ แคมป์บ้านพักคนงานก่อสร้างช้างคลาน เชียงใหม่ โดยได้ให้ความรู้ เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กับเด็กเยาวชนข้ามชาติในแค้มบ้านพักคนงานก่อสร้าง และเยี่ยมบ้านเยาวชนไซต์งาน โดยแกนนำเยาวชนรักษ์ไทย ผู้อำนวยงานมูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทย เผยตั้งเป้าเพื่อยุติเอดส์ภายในปี 2573
นางสาวเย็นจิต สมเพาะผู้อำนวยงานมูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ในประเทศว่าขณะนี้ข้อมูลของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย รายงาน ณ สิ้นปี 2559 มีผู้ติดเชื้อเอชไวีรายใหม่ 6,200 คน เฉลี่ยวันละ 17 คน ตลอดทั้งปีมีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตกว่า 15,000 เฉลี่ยวันละ 43 คน โดยเป็นกลุ่มชายรักชายมากที่สุดและจากข้อมูลการเฝ้าระวังระบาดวิทยาและการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไวีบ่งชี้ว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวมาจากการเข้าถึงการตรวจรักษา การได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี เร็ว แต่ในกลุ่มหญิงตั้งครรภที่มารับบริการฝากครรภ์ และกลุ่มทหารเกณฑ์คัดเลือกใหม่เข้าประจำการอายุ 20-24 ปี กลับมีแนวโน้มสูงขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมเสี่ยงของกลุ่มเยาวชน ที่มีคู่เพศสัมพันธ์หลายคนไม่ป้องกัน เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชน ติดเชื้อเอชไอวี และไม่ทราบสถานการติดเชื้อฯของตนเอง นอกจากนี้พบว่าเยาวชนมีอัตราการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถึงร้อยละ 50 รวมถึงการตั้งครรภ์ไม่พร้อม
ในการยุติการแพร่ระบาดของ การติดเชื้อเอชไอวี ในสังคมไทย นอกจากรัฐบาลที่มุ่งเน้นบริการดูแลรักษาแล้ว ยังมีองค์กรภาคประชาชนที่ทำงานด้านเอดส์จากทั่วประเ?ศไทย เป็นผู้ขับเคลื่อน สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อฯ และช่วยเหลือดผู้ติดเชื้อ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสิ่งที่มูลนิธิเอดส์แห่งประเทศไทยและภาคีโครงการอีกนิดพิชิตเอดส์ ทำคือเข้าถึงกลุ่มประชากร ที่มีโอกาสรับเชื้อเอสไอวีสูง แนะนำให้ป้องกันเอชไวอีที่ถูกวิธี และหากเคยมีพฤติกรรมเสี่ยงให้ “เข้าตรวจเอชไอวี”เพื่อการรักษาทันที
เป้าหมายในลำดับต่อไปจึงยังคงยึดมั่นอยู่กับปณิธานสำคัยคือ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและสนับสนุนให้ประเทศไทย ประการแรก ลดการเสียชีวิตจากเอดส์ ถัดมา ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี รายใหม่ และสุดท้ายลดการรังเกียจ และเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ โดยบูรณาการทุกภาคส่วนทำงานตอบโจทย์เป้าหมายดังกล่าวนี้ไปพร้อมกับ เพื่อยุติเอดส์ภายในปี 2573 หรืออีก 12 ปีตามเป้าหมายใหญ่ของนานาชาติ
นายนพรุจ หมื่นแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์ไทยเพาเวอร์ที กล่าวว่า จากการรณรงค์ที่ผ่านมากกว่า 12 ปี พบปัญหาวัยรุ่นติดเชื้อดเอชไอวีส่วนใหญ่มาจากการไม่เข้าถึงข้อมูลเรื่องเพศที่ถูกต้องทำให้ขาดการตระหนักในการป้องกันตนเอง ปัญหาอีกส่วนหนึ่ง คือมีวัยรุ่นตั้งครรภ์ และเด็กทารกเกิดใหม่ติดเชื้อเอชไอวีเกิดขึ้นในปัจจุบันสาเหตุมาจากไม่ตรวจหาเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่อง การติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ทำให้เด็กเกิดมาได้รับการถ่ายทอดเชื้อเอสไอวี ซึ่งเป็นปัญไหาทั้งทางด้านความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตและปัญหาด้านจิตใจของแม่และเด็ก
นางศรัญญา บุญเพ็ง ประธานมูลนิธิผู้หญิงที่อยู่ร่วมกับเอสไอวี เล่าว่า สถาณการณ์ผู้หญิงที่อยู่กับเชื้อเอสไอวี จำนวนไม่ได้มากนักเป็นกลุ่มเก่าที่กินยาต้านมานานแล้ว เพราะการเข้าถึงการรักษา จึงทำให้กลุ่มผู้ติดเชื้อมีอายุยืนยาวขึ้น ส่วนกลุ่มใหม่ที่เพิ่มติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 20 ปี โดยสาเหตุหลักมาจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน
นายผดุง โผนเมืองหล้า ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลออนกลาง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ชี้ประเด็นภาครราชการกับการแก้ปัญหาเอชไอวีในชุมชนว่า เน้นแก้ทัศนคติผู้นำชุมชนย่อยก่อน ซึ่งมีบทบาทในการช่วยลด หรือยุติปัญหาผู้ติดเชื้อเอชไอวี
เริ่มจาการให้ความรู้ผู้นำชุมชน ว่าการติดเชื้อเอชไอวีกับโรคเอดส์ต่างกันยังไง สาเหตุเกิดจากอะไร ป้องกันอย่างไร การติดต่ออยากง่ายยังไง เพื่อเปลี่ยนทัศนคติของผู้นำชุมชนทีมีต่อเรื่องนี้ ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อเอดส์อย่างมีประสิทธิภาพ.

ร่วมแสดงความคิดเห็น