จบด้วยดี กรณีโลกโซเชียลแชร์เรื่องราวสาวถูกกระบะปาหินใส่ ล่าสุดทั้งสองฝ่ายเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังติดตามเบาะแสจนเจอตัว สอบสวนแท้จริงเป็นคนงานรับตัดหญ้า นั่งรถมาทำงานเจอเศษกระเบื้องหลังรถจึงหยิบมากะโยนทิ้งข้างทาง แต่ไม่ทันสังเกตุเห็นผู้เสียหายขับรถสวนจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยทางสองฝ่ายเจรจากันจนเข้าใจ ฝ่ายผู้ก่อเหตุยอมรับผิด ถูกลงโทษความผิดฐาน กระทำโดยประมาท เปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าเสียหายและค่าพยาบาลกับสาวผู้ประสบเหตุอีก 10,000 บาท ยืนยันไม่ใช่แก๊งปาหินแต่อย่างใด
จากกรณีที่โซเชียลได้มีการแชร์เรื่องราวของสมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งชื่อว่า “Koon Krisjanan” ที่ได้เตือนภัยและขอความช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุการณ์ที่ ไม่คาดฝันขณะขับขี่รถจักรยานยน์บริเวณถนนในหมู่บ้านสันกลาง ตำบลยุหว่า อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งสวนทางกับรถกระบะคันหนึ่ง แล้วเกิดมีผู้ปาเศษกระเบื้องหินอ่อน ขนาดกว้างประมาณ 5 นิ้ว หนา 1 นิ้ว โดนศีรษะจนรถล้ม และเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทราบชื่อคือ นางสาวเนตรนภา ภูชัย อายุ 32 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกต้องเย็บแผลถึง 4 เข็ม และ เด็กหญิงกุลิสา ขจรศักดิ์ อายุ 12 ปี ที่ซ้อนท้ายมาได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลถลอกตามร่างกาย
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 26 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา โดยเมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาไปบนโลกโซเชียล ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และแชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก โดยบางรายเข้าใจว่าเป้นแก๊งปาหิน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี กระทั่งในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการติดตามเบาะแสของรถกระบะคันดังกล่าวจนเจอในที่สุด และทางคนขับได้เดินทางเข้ามารายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยรวมทั้งชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ประสบเหตุที่สถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 มกราคม 2561 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ คู่กรณีในคดีปาเศษกระเบื้อง พร้อมทั้งผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บตามที่ปรากฎเป็นข่าวออกไปนั้น ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.พรพิชิต รุ่งเรือง รองผู้กำกับสอบสวน หัวหน้างานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง เพื่อให้การ และสอบสวนแล้วข้อเท็จจริงทราบว่า นายแสง ลุงทุน มาทำงานตัดหญ้าให้นายจ้างที่หมู่บ้านวิวสวยน้ำใส หมู่ 2 ตำบลยุหว่า อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ กระทั่งหลังเลิกงานได้นั่งรถกระบะคันที่ปรากฎภายในคลิป ยี่ห้อนิสันนาวาล่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผท-271 เชียงใหม่ โดยมี นายสาย เซ เป็นผู้ขับขี่มาตามถนนจนถึงที่บริเวรจุดเกิดเหตุ นายแสง ลุงทุน ที่นั่งหังกระบะเห็นว่ามีแผ่นเศษกระเบื้องที่วางเหลืออยู่ในกระบะท้ายรถยนต์ จึงหยิบขึ้นมาโดยตั้งใจจะโยนทิ้งริมทาง แต่ระหว่างนั้นไม่ทันได้สังเกตุเห็นว่า มีผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์สวนทางมาพอดี เป็นเหตุทำให้เศษกระเบื้องที่โยนทิ้งไปถูกศีรษะของผู้เสียหายจนรถล้มได้รับบาดเจ็บ
ส่วนทางด้าน นายสาย เซ ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ระหว่างนั้นไม่ทราบเรื่อง จึงได้ขับขี่รถยนต์ไปตามปกติ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงได้ติดตามเบาะแสและได้ทราบหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ได้ติดตามจนพบตัวจากนั้นจึงได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากการสอบสวน นายแสง ลุงทุน ผู้ก่อเหตุก็ได้ยอมรับว่า ตอนนั้นได้โยนแผ่นกระเบื้องออกไปจากกระบะท้ายรถจริง โดยไม่ได้สังเกตุว่ามีรถแล่นสวนทางมา เป็นเหตุให้กระเบื้องไปถูกศีรษะของ นางสาวเนตรนภา ผู้เสียหายที่ขับรถสวนทางมา โดยเจ้าตัวได้ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะก่อเหตุแต่อย่างใด และทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อน จึงเป็นเรื่องของเความประมาทเลินเล่อ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากแก๊งปาหินแต่อย่างใด
ส่วนทางด้าน นางสาวเนตรนภา ผู้เสียหาย ก็ไม่ได้โต้แย้งและเห็นตามที่พนักงานสอบสวนพิจารณา เห็นว่าการกระทำของ นายแสง เป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับนายแสงเป็นเงิน 1,000 บาท ซึ่งทาง นายแสง ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ จึงให้คู่กรณีและผู้เกี่ยวข้องลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน และทางนายแสง ได้ให้เงินชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญให้กับ นางสาวเนตรนภา เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 10,000 บาท ทั้งคู่เป็นอันตกลงกันได้ แยกย้ายกันไม่ติดใจเอาความกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น