(คลิป) วอนโซเชียลช่วยหาคนร้าย!!! จอดรถอยู่ดีๆ มีคนลงมาทุบรถพังยับ แล้วหนีไปหน้าตาเฉย

วันที่ 29 มกราคม 2561 รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากกรณีที่โลกโซเชียล จากเพจเฟสบุ๊ค “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของชายหนุ่ม ที่ได้ขอความช่วยเหลือแชร์เรื่องราวที่ได้มีคนร้ายมาทุบรถยนต์ที่จอดไว้อย่างไม่ทราบสาเหตุ สภาพรถพังเสียหายหลายจุด ทั้งกระจกหน้ารถ กระจกด้านหลัง และกระจกมองข้างทั้งสองข้างโดยทางผู้แจ้งเรื่องระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ใกล้สี่แยกตุ๊กตา ซอยธานินทร์ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ที่ก่อเหตุออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่กระทำลงไป เพราะต้องใช้รถไปหาหมอทุกวันเดินทางลำบากมากแจ้งตำรวจแล้วเรื่องยังเงียบอยู่ ซึ่งเมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปวานนี้ (28 ม.ค.61) ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงการกระทำของผู้ก่อเหตุ อีกทั้งได้มีการเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาทไม่เกรงกลัวกฎหมาย

โดยในเวลาต่อมาภายหลังที่ทางผู้สื่อข่าวทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ได้ทำการตรวจสอบจนกระทั่งทราบว่า ผู้เสียหายคือ นายสุนิติ นาจักร์ อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้างขับรถตู้และรถเก๋งนำเที่ยว ชาวจังหวัดเชียงราย ที่ได้มาเช่าหอพักที่ย่านดังกล่าว ส่วนรถที่ถูกทุบได้รับความเสียหายเป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน งฉ 9980 เชียงใหม่ ซึ่งยังคงจอดไว้ในสภาพเดิม เนื่องจากเจ้าตัวระบุว่าจะไม่นำไปซ่อมแซมจนกว่าจะติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มารับผิดชอบ เพราะหากนำไปซ่อมแซมก้ต้องเสียเงินอยุ่ที่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาทเป็นอย่างต่ำ

ขณะเดียวกันจากการสอบถาม นายสุนิติ นาจักร์ อายุ 47 ปี เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า ตนได้ขับรถกลับจากทำงานมาถึงห้องพักหลังจากนั้นได้พักผ่อนอยู่ภายในห้อง จากนั้นไม่นานได้มีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ของหอพักแจ้งว่ารถของตนถูกทุบตนนจึงรีบลงมาดูก็พบว่าสภาพรถพังเสียหายยับเยิน และต่อมาหลังเกิดเหตุก็ได้ไปติดตามดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณหอพักรวมทั้งใกล้กับจุดเกิดเหตุ ก็พบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีรถคันหนึ่งขับมาจอดยังบริเวรที่รถของตนจอดอยู่ จากนั้นก็มีผุ้ชาย 2 คนลงมาจากรถ แล้วใช้กระถางดอกไม้ทุบกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถจนแตก รวมทั้งได้หักกระจกมองข้าง จากนั้นก็ขึ้นรถและขับหลบหนีออกไป

โดยตนเองก็ยืนยันว่าได้มาเช่าห้องพักอยู่อาศัยในระแวกดังกล่าวได้ 3 เดือนแล้ว และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหากับใครแต่อย่างใด ขณะเดียวกันก้ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องบาดหมางกับผู้ก่อเหตุด้วย อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนในครั้งนี้ น่าจะมาจากการเกิดความเข้าใจผิดของผู้ก่อเหตุมากกว่า โดยตอนนี้ทางตนก็ได้เข้าทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนรถที่ได้รับความเสียหายนั้นตนก็จะไม่นำไปซ่อมแซมจนกว่าจะตามเจอที่ก่อเหตุ มารับผิดชอบ แม้ในช่วงที่ไม่สามารถ นำรถไปใช้ได้ ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ จากการทำงาน วันละหลายพันบาทก็ตาม

ร่วมแสดงความคิดเห็น