เจอตัวแล้วหนุ่มทุบรถ สุดท้ายตำรวจพาขึ้นโรงพัก เจรจากับผู้เสียหาย สาเหตุทะเลาะกับแฟนสาว แล้วทุบรถหวังเรียกร้องความสนใจ แต่ดันผิดเป้า

คืบหน้ากรณี หนุ่มโดนทุบรถพังยับ ล่าสุด จนท.ตำรวจ สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ ติดตามตัวผู้ก่อเหตุจนเจอ ก่อนนำตัวขึ้นโรงพักนัดผู้เสียหายมาเจรจา จนสุดท้ายเข้าใจกัน พร้อมยอมรับชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถ 150,000 บาท ส่วนสาเหตุเนื่องมาจากการเข้าใจผิด หลังแฟนหนุ่มทะเลาะกับแฟนสาวที่เป็นเจ้าของตึก แล้วมาหาถึงที่ แต่ยังไม่ยอมรับการติดต่อใดๆ เห็นรถเก๋งจอดอยู่เข้าใจว่าเป็นของคนในบ้าน จึงตัดสินใจก่อเหตุหวังเรียกร้องความสนใจจากแฟนสาวแต่ดันผิดเป้า

รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่เพจเฟสบุ๊ค “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของชายหนุ่ม ที่ขอความช่วยเหลือแชร์เรื่องราวที่มีคนร้ายมาทุบรถยนต์ที่จอดไว้อย่างไม่ทราบสาเหตุ สภาพรถพังเสียหายหลายจุด ทั้งกระจกหน้ารถ กระจกด้านหลัง และกระจกมองข้างทั้งสองข้าง โดยเหตุเกิดที่บริเวณหน้าตึกแถวย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียง ใหม่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.61 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.30 น. ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ถึงการกระทำของผู้ก่อเหตุ อีกทั้งได้มีการเรียกร้องให้ทาง จนท.ตำรวจ ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ม.ค.61 ที่ สภ.ช้างเผือก นายสุนิติ นาจักร์ อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้างขับรถตู้และรถเก๋งนำเที่ยว ชาว จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อัลติส หมายเลขทะเบียน งฉ 9980 เชียงใหม่ คันที่ถูกทุบเสียหาย เดินทางเข้าพบ พงส. หลังจากที่ จนท.ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.สภ. ให้เร่งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐาน จนสามารถติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุได้ และเชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าพบกัน เพื่อไกล่เกลี่ยเจรจากันเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย

ทั้งนี้เบื้องต้นพบว่าผู้ชาย 1 ใน 2 คน ที่ลงก่อเหตุนั้น เป็นแฟนหนุ่มของผู้หญิงเจ้าของตึกที่ นายสุนิติ นำรถยนต์ไปจอด โดยที่แฟนหนุ่มและผู้หญิงเจ้าของตึกอยู่กันคนละที่ และที่ผ่านมามีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ รวมทั้งผู้หญิงเจ้าของตึกไม่ยอมรับการติดต่อใดๆ จากทางแฟนหนุ่มด้วย กระทั่งคืนวันเกิดเหตุแฟนหนุ่มพร้อมคนขับรถได้มาหาที่ตึกดังกล่าว และผู้หญิงก็ยังไม่ยอมรับการติดต่อใดๆ เมื่อเห็นรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่หน้าตึกและเข้าใจว่าเป็นรถของคนในบ้านแฟนสาว ด้วยอารมณ์ชั่ววูบและความโมโห จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว หวังเรียกร้องความสนใจจากแฟนสาว กระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าว โดยทางผู้ก่อเหตุได้แสดงความรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้ จำนวน 150,000 บาท และ จนท.ตำรวจ ดำเนินคดีข้อหาทำให้เสียทรัพย์