ไม่เหม็นจริงคงไม่โวย! ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์สื่อมวลชน ร้านอาหารชื่อดังเชียงดาว เผาขยะเหม็นต่อเนื่องกว่า 2 ปี

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านแม่ก๊ะ ม.8 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ว่ามีการเผาขยะจากร้านอาหารชื่อดัง และส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมานานกว่า 2 ปี และยังคงมีการเผาอย่างต่อเนื่อง

หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกับกลุ่มชาวบ้าน บริเวณดังกล่าวอยู่ด้านหลังร้าน โดยมีบ่อขยะขนาดกว้างประมาณ 15เมตร ลึก 3 เมตร พบกองขยะมีซากอาหาร ถุงพลาสติก โฟม ก้ามปู หัวกุ้ง ฯลฯ และซากอาหารถุงดำทั้งที่ถูกเผา และไม่ถูกเผาจำนวนมาก

นางปรียา คำมูล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.8 ต.เชียงดาว รวมไปถึง ตัวแทนชาวบ้านเปิดเผยว่า บ่อขยะดังกล่าวเผามานานกว่า 2 ปี ไม่มีหน่วยงานไหนแก้ไข หน่วยงานรับผิดชอบคือ อบต. ชาวบ้านเคยร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม แต่ก็ยังมีการเผามาโดยตลอด ซึ่งคนในหมู่บ้านเดือดร้อนมาก ในชุมชนมีทั้งเด็กน้อย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง แม่ลูกอ่อน ฯลฯ เวียนหัว อึดอัดทางเดินหายใจ ทนเหม็นมานานกว่า 2 ปี ถ้าไม่เหม็นจริงคงไม่ต้องออกมาร้องเรียน และบ่อขยะที่เผาดังกล่าวยังติดลำเหมืองสาธารณะของหมู่บ้าน ซึ่งน้ำไหลลงที่บ่อปลาของชาวบ้าน เคยคุยขอแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนเผามีเงิน ชาวบ้านต้องการขอทางร้านอาหารดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกำจัดและแก้ปัญหาดังกล่าว โดยไม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อนอีกต่อไป ก่อนที่ชาวบ้านจะนำหลักฐานทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และรายชื่อชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร้องเรียน ผวจ.เชียงใหม่ ต่อไป

ข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ระบุอย่างชัดเจนว่า การเผาแม้จะเป็นที่ของตนเอง แต่ทำให้เกิดกลิ่น ควัน เขม่า ฯลฯ ไปกระทบสร้างความเดือดร้อน สร้างความรำคาญต่อผู้อื่น กฎหมายกำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น มีอำนาจสั่งห้ามให้หยุดเผาและห้ามมิให้เผาอีกต่อไป หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่หากการเผานั้นทำให้เกิดอันตราย หรือทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น มีความผิดตามกฏหมายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท

และหากการเผานั้นลุกลามรุนแรง ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อบุคคล หรือทรัพย์สินของบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุก 5 ปี ถึง 20 ปี และหากรู้อยู่แล้วว่า การเผาดังกล่าวอาจจะทำอันตรายต่อทรัพย์สินของบุคคลอื่น ได้อย่างแน่นอนถือว่า มีความผิดฐานวางเพลิงโดยเจตนา มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

และนอกจากนั้น ในส่วนของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 157 ยังระบุถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเบื้องต้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี หรือทั้งจำและปรับ

ข่าวรายงานว่า ล่าสุดในเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นัฏนุช ประเสริฐทอง ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน “ประเสริฐทองวิลล์”ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทางร้านจะไม่มีการเผาขยะ ใบไม้ ไม่ว่ามากหรือน้อย แต่ถ้าเกิดขึ้นกับพื้นที่ข้างเคียงขอให้ทำการตรวจสอบ และบ่อขยะของทางร้านทิ้งเศษหญ้า และจะเริ่มทำปุยหมัก ส่วนเปลือก กุ้ง หอย ปู ปลาและเศษอาหาร ให้รีสอรท์และชาวบ้านมารับไป และต้องการให้ จนท.ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบสถานที่ และชาวบ้านร้องเรียนอะไรมาก็ไม่นิ่งดูดาย หวัง อบต.ดูแลก็ไม่ได้มาก เพราะมาเก็บขยะอาทิตย์ละครั้ง ทำให้มีขยะสะสมมากเกินไป และทางร้านก็กลัวแมลงวัน พยายามแก้ไขปัญหาทุกๆทาง

ซื้อที่เป็นล้านเพื่อขุดบ่อ ปัญหาก็ไม่เคยจบ ตราบใดที่หน่วนงานที่รับผิดชอบ ไม่มีแนวทางการแก้ปัญหาให้จบ อบต. เอาถุงมาขายให้แต่ไม่มีรถเก็บให้เพียงพอ แต่ละวันร้านมีขยะไม่เกิน 5 ถุง แล้วจะให้ทำอย่างไร ชาวบ้านก็เดือดร้อน ร้านเราเป็นร้านอาหารต้องรักษาความสะอาดมากกว่าธุรกิจอื่นๆ และตนเองเป็นคนชอบแก้ไขไม่แก้ตัว นอกจากมีคนเหม็นขี้หน้าที่ชอบพูดอะไรตรงๆ ไม่ชอบใส่หน้ากากและมีความจริงใจเกินร้อย จึงแจ้งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เข้ามาดูแล

ร่วมแสดงความคิดเห็น