เปิดบ้านคนเมืองยากไร้ สวรรค์-นรกในเชียงใหม่

เครือข่ายประชาสังคมเพื่อพิทักษ์สิทธิกลุ่มผู้ยากไร้ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีปัญหาของด.ญ.จุฑามาศ เสนธรรม (น้องพลอย) อายุ 15 ปี พร้อมมารดาน.ส. สุณีย์ เสนธรรม อายุ 49 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่เพิงริมคลองสาขาคลองแม่ข่า ติดกับโครงการเจเจมาร์เก็ต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตามที่ปรากฎเป็นข่าวได้สะท้อนภาพสังคมความเหลื่อมล้ำกันของผู้คนในสังคมเมืองใหญ่ๆชัดเจน

และต่อมามีการระดมความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ หลังจากที่มีการแบ่งปันข้อมูลผ่านสื่อสังคม แม้กระทั่งเฟสบุ๊คของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น ซึ่งระบุว่าได้สั่งการท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาประสานงานเพื่อช่วยเหลือกับฝ่ายต่างๆแล้ว และกำชับอปท.ทุกแห่งตรวจสอบกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะคล้ายๆกันด้วย

ทั้งนี้ น.ส.สุณีย์ และบุตรสาว มีอาชีพรับจ้างเก็บของเก่าขาย และกำลังจะศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นนักกีฬาดีเด่นประจำโรงเรียน ล่าสุดเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้จัดหาที่พักในห้องพักภายในสนามกีฬาเทศบาลฯให้ ส่วนความช่วยเหลือด้านอื่นๆนั้น เบื้องต้นศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่, ศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ,ครูประจำชั้น ได้เข้ามาร่วมช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีธนาคารออมสิน สาขาเทสโก้โลตัสบัญชี 020237611429 บัญชี กองทุนช่วยเหลือ ด.ญ.จุฑามาศ เสนธรรม พร้อมประสานหน่วยงาน รักษาอาการนัยน์ตาของแม่น้องพลอยที่มีปัญหาพร่ามัว ที่ผ่านๆมาผู้บริหาร ทน.เชียงใหม่ และหน่วยงานด้านความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมจัดระเบียบ การบุกรุกที่สาธารณะเพื่ออยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งขอความร่วมมือ อยู่ระหว่างการบังคับรื้อถอน ตามกฎหมาย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม อาจารย์ ประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ ท่านหนึ่งกล่าวว่า ปัญหาที่ผู้คนยากไร้ คนต่างถิ่น คนต่างด้าว เข้ามาอาศัยในสถานที่ซึ่งสังคมเมืองจะรับรู้ว่า เป็นเสมือนบ้าน ที่พักหลังกำแพง และรุกพื้นที่รกร้างของเอกชน หน่วยงานของรัฐฯก็พยายามแก้ไข ตามนโยบายซิติ้ วิทเอาท์สลัม หรือเมืองปลอดสลัม
” กระบวนการตามกฎหมาย และการดิ้นรนต่อสู้เพื่ออยู่รอดของผู้คนในเมือง ไม่อาจใช้วิธีการอย่างใด อย่างหนึ่งได้ จะพบว่า ยิ่งแก้ก็ยิ่งมีชุมชนเพิ่มขึ้น ในพื้นที่นครเชียงใหม่ น่าจะถึงเวลาทบทวนบริบทของท้องถิ่น ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะแก้ปญหาสลัมในเมือง อย่างยั่งยืนอย่างไร ”

นายณัฐฐชูเดช วิริยะดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เท่าที่เคยลงพื้นที่ดำเนินการ ติดตามการแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของผู้คนในเมือง บางพื้นทีมีการบุกรุกชัดเจนก็เข้าไปรื้อถอน แต่บางพื้นที่มีความละเอียดอ่อนก็ต้องค่อยๆแก้ไข ในระดับจังหวัดมีคณะทำงานด้านนี้อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็สะท้อนอิทธิพลของสื่อสังคมที่ช่วยเหลืออีกครอบครัวให้พ้นทุกข์ขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี ส่วนที่รอความช่วยเหลือ สังคมก็ต้องสอดส่องดูแลสังคมร่วมกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น