นอภ.เชียงดาวเน้น! บังคับใช้ กม. หยุด หมอกควัน-ไฟป่า “จับจริง-ปรับจริง”!

( 25 มี.ค.) นายสราวุฒิ วรพงษ์ นอภ.เชียงดาว ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ปํญหาหมอกควันและไฟป่าอำเภอเชียงดาว แจ้งว่า ได้ประสานทุกหน่วยงานให้เร่งประชาสัมพันธ์ตามที่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีประกาศ จ.เชียงใหม่ เรื่อง กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2561 ภายใต้ชื่อ 51 วันไม่เผา เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.ถึง 20 เม.ย 61

เนื่องจากขณะนี้เกิดสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจวัดพบว่ามีค่าฝุ่นละอองในอากาศมีแนวโน้มสูงขึ้น และยังได้รับผลกระทบจากกระแสลมมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้พัดพาหมอกควันอันเกิดจากจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดใกล้เคียง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่มีผลกระทบต่อประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดมาตรการในการขออนุญาตเข้าป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ถึง 20 เม.ย. 61 ดังนี้ บุคคลใดมีความประสงค์เข้าพื้นที่ป่าให้มาลงทะเบียนขออนุญาตต่อนายอำเภอ ในฐานะผู้อำนวยการหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายคือ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชนและแจ้งเหตุผล และให้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ผู้ที่ได้รับอนุญาตห้ามนำอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดไฟทุกชนิด เช่น ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟเข้าป่า หากมีการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อาทิ ผู้เผาทุกชนิดในที่โล่งในช่วงเวลาห้ามเผา จะถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับคดีละ 2,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำและปรับ บุคคลใดเผาป่าเกิน 25 ไร่ โทษจำคุก 4 ถึง 20 ปี ปรับ 200,000ถึง 2 ,000,000 บาท และสำหรับผู้แจ้งเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด จะมีรางวัลนำจับ 5,000 บาท โดยแจ้งได้ที่ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ โทร 053 111 236 หรือ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

จึงขอแจ้งเตือนประชาชาชนให้ทราบโดยทั่วกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายในอัตราโทษที่สูงสุด เพื่อไม่ให้หมอกควันและไฟป่า ลดมลพิษในอากาศ ส่งผลดีต่อทั้งสภาพแวดล้อม และเศรษฐกิจท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น