“กอบกาญจน์” ประธานฯบอร์ดพิงคนคร นั่งหัวโต๊ะประชุมครั้งแรก ไม่ให้สื่อทำข่าว

“กอบกาญจน์” ประธานฯบอร์ดพิงคนคร นั่งหัวโต๊ะประชุมครั้งแรก ไม่ให้สื่อทำข่าว ชาวบ้านห่วงเอกชนเข้ายึดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มี.ค.2561 ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วันนี้เป็นประธานการประชุมบอร์ดคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เป็นครั้งแรก หลังจากที่ถูกลดบทบาททางการเมือง และการประชุมครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจที่อดีต รมว.ท่องเที่ยวและกีฬามาทำหน้าที่ครั้งแรก สื่อมวลชนเข้าทำข่าว และประชาชนชาวเชียงใหม่ต้องการทราบถึงบทบาทหน้าที่ของนางกอบกาญจน์ ที่นั่งหัวโต๊ะวันนี้

ผู้เข้าร่วมประชุมมีนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะกรรมการโดยตำแหน่ง, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการโดยตำแหน่ง, ตัวแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กรรมการโดยตำแหน่ง และ ดร.บุษราภรณ์ กอบกิจพานิชผล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะวิชาการท่องเที่ยว คณะมนุษย์ศาสตร์ และ ดร.สุเทพ นิ่มสาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้จัดการสาขาเซ็นทรัลเวิลด์, นายสรภพ เชื้อดำรง กรรมการภาคเอกชน และนายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริษัท ซันสวิท จำกัด (มหาชน) ส่วนนายณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการภาคเอกชน กรรมการผู้จัดการบริษัทเจริญมอเตอร์เชียงใหม่ จำกัด ไม่เข้าประชุมเพียงคนเดียว
ขณะเริ่มต้นการประชุมทางสื่อมวลชนได้เข้าไปบันทึกภาพและทำข่าว แต่ทางนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะกรรมการโดยตำแหน่ง กล่าวว่า “การประชุมบอร์ดไม่ได้เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมนะครับ และครั้งนี้ไม่ทราบว่าหน่วยงานใดเชิญสื่อมวลชนหรือไม่ ส่วนตัวผมกับสื่อมวลชนไม่ได้ว่าอะไรนะครับ”

ทางด้านสื่อมวลชน แจ้งว่า กรณีเข้ามาในห้องประชุมก็แลกบัตรและขออนุญาตถูกต้องแล้วจึงเข้าห้องประชุมเพื่อทำข่าว หากไม่ให้เข้าห้องประชุมก็ขอถ่ายภาพแล้วจะออกจากห้องประชุม จากนั้นสื่อมวลชนบันทึกแล้วออกจากห้องไป
สำหรับการประชุมบอร์ดคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เป็นครั้งแรกหลังจากที่มีมติ ครม.ไฟเขียวตั้ง “กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร” นั่งประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร เมื่อวันที่ 13 มี.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนครแทนประธานกรรมการที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2560 รวม 7 คน มีนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ น.ส.บุษราภรณ์ กอบกิจพานิชผล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายสุเทพ นิ่มสาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการภาคเอกชน นายสรภพ เชื้อดำรง กรรมการภาคเอกชน และนายอนุชา ดำรงมณี กรรมการภาคเอกชน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.2561 เป็นต้นไป
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมบอร์ดคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เป็นที่น่าจับตาของประชาชนในพื้นที่เชียงใหม่คือ ประชาชนให้ความสนใจกรณีที่ทราบข่าวว่า จะมีบริษัทเอกชนรายใหญ่จะเข้ามาดำเนินการดูแลและจัดการพื้นที่พิเศษสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) รวมทั้งศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ที่อยู่พื้นที่ติดกับสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จะใช้พื้นที่ให้เป็นโรงแรมและที่จอดรถ และเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วยนั้น

ทางตัวแทนชาวบ้านจึงแจ้งกับสื่อมวลชน เพื่อนำเสนอผลการประชุมของ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ที่มานั่งหัวโต๊ะประชุมในวันนี้ (วันที่ 26 มี.ค.2561) แต่สื่อมวลชนได้ถูกห้ามเข้าไปทำข่าวเสียก่อน กรณีดังกล่าวสื่อมวลชนเชียงใหม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มสื่อเชียงใหม่ “กลุ่มข่าวด่วน” ก็ได้รับแจ้งจากสื่อมวลชนอาวุโสเช่นกันว่า การประชุมบอร์ดคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร จะไม่เปิดเผยมาโดยตลอด จะมีการประชุมกันแบบเงียบๆเสมอ จนทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยในการบริหารจัดการพื้นที่พิเศษดังกล่าวทั้งในไนท์ซาฟารี ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร รวมทั้งการดูแลศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ที่ทุกภาคส่วนเป็นห่วงว่าเอกชนจะเข้ามาบริหารอีกด้วย อย่างไรก็ตามการประชุมบอร์ดคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ตลอดช่วงเช้า แต่สื่อมวลชนได้กลับกันหมดแล้ว.