อ.เฉลิมชัย ทุ่ม 3 ล้านแห่ศิลปะ-กีฬา ระดมศิลปินลงทุก 18 อำเภอหวัง 10 ปีรับจีน-ฝรั่งทะลักหนัก

วันนี้ (30 มี.ค.) ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานในการประชุมชี้แจงนโยบายแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.เชียงราย และพัฒนาบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาเสพติดในพื้นที่ชั้นในและตามแนวชายแดน โดยมีนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วจังหวัดเข้าร่วม ซึ่งในการประชุมทางจังหวัดจัดให้อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ได้ประกาศการพัฒนาจังหวัดด้วยศิลปะโดยมีการนำศิลปินจากทั้ง 18 อำเภอมาร่วมในการประกาศด้วย
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่าปัจจุบัน จ.เชียงราย ได้รับเลือกให้เป็นเมืองศิลปะอันดับที่ 1 ของประเทศ โดยรัฐบาลจึงเลือกเชียงราย นครราชสีมา และกระบี่ ในการส่งเสริมให้เป็นเมืองศิลปะในแต่ละภูมิภาคโดยเชียงรายเป็นอันดับแรก เพราะเรามีศิลปินครบวงจรทุกแขนงมากที่สุดรวมกันแล้วกว่า 400 คน ดังนั้นเพื่อให้ศิลปะนำมาสู่ประโยชน์ต่อเชียงรายทั้ง 18 อำเภอในระยะยาวคือเราจะเริ่มต้นด้วยการร่วมกันจัดกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 “เจียงฮายเกมส์” ซึ่งเชียงรายจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 18-22 พ.ย.2561 นี้ก่อน โดยนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และท้องถิ่นถือว่าเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุดจึงมีความสำคัญ ด้วยการทำให้เกิดเป็นกระแสกีฬาแห่งชาติไปสู่คนเชียงราย โดยงานแรกคือสร้างขบวนแห่หรือแฟนซีกีฬา โดยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้มาเยือนตามถนนสายเข้าจังหวัดและทุกสายในจังหวัด เช่น มีธงทิวกีฬา ตัวมาสคอร์ต เป็นซุ้มๆ ทั้งกลางวันและกลางคืนที่ประดับอยู่ตามถนน
“จะมีศิลปินที่อยู่ในแต่ละอำเภอไปช่วยเหลือนายอำเภอในการจัดงาน และให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมให้เขาได้ทำศิลปะทุกชิ้น แล้วนำมาทำเป็นขบวนแห่มายังตัวเมืองเพื่อโชว์นักท่องเที่ยว จนกลายเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวล่วงหน้า 20 วันก่อนกีฬาแห่งชาติจะมีขึ้น ศิลปะทุกชิ้นที่แห่มาก็จะนำกลับไปแสดงในอำเภอของตัวเอง โดยผมได้เตรียมเงินส่วนตัวของผมให้แต่ละอำเภอๆ ละเบื้องต้น 50,000 บาทเพื่อนำไปดำเนินการแต่ละอำเภอก็ไประดมทุกนกันเพิ่มเติม ส่วนขบวนที่ชนะได้เงินรางวัล 1 ล้านบาท ที่ 2 ได้เงินรางวัล 500,000 บาท ที่ 3 ได้เงินรางวัล 300,000 บาท เมื่อรวมๆ กับค่าดำเนินการแต่ละอำเภอแล้วผมใช้เงินให้ไปรวม 2.9 ล้านบาทโดยไม่ใช้เงินของจังหวัดเลยแต่ผมทำเพื่อเชียงราย” อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวและว่า

กิจกรรมเหล่นี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดความสามัคคีและกิจกรรมที่ดีในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทำให้เชียงรายกลายเป็นเมืองศิลปะโดยตนคาดหวังว่าหลังเสร็จสิ้นงานกีฬาแห่งชาตินี้ไปแล้ว 10 ปีจะเกิดศิลปะท้องถิ่นที่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้ โดยมีตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นที่แต่ละหมู่บ้านจะมีร้านเล็กๆ ที่มีของขวัญของฝากที่เป็นงานศิลปะขายเล็กๆ น้อยๆ จนถึงอาหารและอื่นๆ ขณะที่เรามีศิลปินมากมีหลากหลายทั้งกระดาษสา แกะสลักไม้ ฯลฯ ซึ่งสามารถพัฒนาได้ในอนาคตแต่ละอำเภออาจมีศูนย์ใหญ่เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว จัดแสดงและจำหน่ายสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้เป็นอย่างดี
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวอีกว่าตัวอย่างที่วัดร่องขุ่นนั้นพบว่านักท่องเที่ยวเดินทางไปจำนวนมาก มีศิลปินที่ตนเปิดให้นำผลงานไปขายปรากฎว่าขายดิบขายดี ดังนั้นเราจำเป็นต้องให้เรากระจายไปแต่ละอำเภอเพื่อให้เมืองศิลปะและชาวบ้านก็มีส่วนร่วมรับรายได้ด้วย เพราะที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่านักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเชียงรายเพราะเขาสนใจในงานศิลปะ ตัวอย่างที่วัดร่องขุ่นแห่งเดียวคนมากันเต็มหมดจนเครื่องบินมาวันละหลายเที่ยวและยังเดินทางมาทางบกอีกทุกสารทิศ ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนมาทำสารคดีตนถึง 7 วัน 7 คน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและต่างชาติมาเยือนวัดวันละ 3,000-4,000 คนหรืออย่างต่ำที่สุดคือ 3,200 คน ไม่รวมคนไทย เราจึงต้องหาทางขยายไปยังแต่ละอำเภอ โดยเฉพาะแต่ละอำเภอมีวัดที่สร้างได้อย่างงดงามซึ่งอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านสามารถไปร่วมกับวัดในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ได้ด้วย

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่าศิลปะสามารถสร้างความยั่งยืนให้เชียงรายโดยเฉพาะการดึงเด็กเยาวชนเข้ามาร่วม ตัวอย่างกรณีประเทศฝรั่งเศสและญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากเพราะมีการดูแลรักษาโบราณสถานและศิลปะไว้เป็นอย่างรวมถึงมีเรื่องเล่า ถ้าเชียงรายเราเดินทางไปถูกทางเช่นนี้คาดว่าอีก 10 ปีเราจะไม่น้อยหน้าฝรั่งเศสและญี่ปุ่นแน่นอน โดยการพัฒนาจะเริ่มต้นจากการร่วมกันจัดงานกีฬาแห่งชาตินี้ก่อนและค่อยดำเนินการด้านอื่นๆ ต่อไป.
///

ร่วมแสดงความคิดเห็น