“ช้างพ่นน้ำ”เล่นสงกรานต์ กรมควบคุมโรคเตือนระวังจะนำเชื้อโรคมาสู่คนได้

“ช้างพ่นน้ำ”เล่นสงกรานต์ กรมควบคุมโรคเตือนระวังจะนำเชื้อโรคมาสู่คนได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ซึ่งมีภูมิต้านทานต่ำ ให้หลีกเลี่ยงสัมผัสกับน้ำที่พ่นออกมาจากช้าง
เมื่อปีก่อนทางกรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึงกรณีช้างเล่นน้ำสงกรานต์จะนำเชื้อวัณโรคมาสู่คนหรือไม่นั้น ตามปกติปางช้างที่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำสงกรานต์จะเป็นปางช้างที่ได้มาตรฐานในประเทศไทย จะต้องได้รับมาตรฐานปางช้างจากกรมปศุสัตว์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมาตรฐานที่ว่าต้องมีการตรวจสุขภาพของพนักงาน ควาญช้าง และตัวช้างเป็นประจำทุกปี ถ้าพบช้างป่วยจะได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์ประจำปางช้าง หรือสัตวแพทย์ที่อยู่ใกล้ในทันที และช้างที่ป่วยจะให้งดกิจกรรมที่ใกล้ชิดกับคน เช่น ออกมาแสดงให้คนดู หรือเล่นน้ำสงกรานต์ เป็นต้น สำหรับช้างที่สงสัยว่าป่วยจะมีการเก็บน้ำล้างงวงมาตรวจหาเชื้อทุก 3 เดือน ถ้าไม่พบเชื้อหลายครั้งติดต่อกัน จึงจะแน่ใจว่าไม่มีเชื้อโรค

ทั้งนี้ คำแนะนำสำหรับประชาชนในกรณีดังกล่าว ขอให้กลุ่มที่เสี่ยงติดเชื้อวัณโรคง่ายกว่าคนอื่น 3 กลุ่ม คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งมีภูมิต้านทานโรคต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี เบาหวาน โรคโลหิตจาง เป็นต้น ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำที่พ่นออกมาจากช้างโดยตรง หรือคลุกคลีกับช้างเป็นเวลานานๆ เพราะมีโอกาสติดเชื้อโรคต่างๆ หรือป่วยสูงกว่าทุกกลุ่ม ส่วนช้างที่นำมาเล่นสงกรานต์ต้องเป็นช้างที่มีสุขภาพดี ไม่ป่วย และน้ำที่เอามาพ่นต้องสะอาด
ซึ่งอาการของโรควัณโรคจะเริ่มจากมีไข้ต่ำๆ ในช่วงบ่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด ไอเรื้อรังเกินกว่า 2 อาทิตย์ ซึ่งประชาชนมักเข้าใจผิดว่าป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา มักซื้อยามากินเอง และอาการของโรคนี้ไม่รุนแรง เช้ายังทำงานได้ จึงไม่ได้ไปพบแพทย์และแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้ โดยเชื้อจะอยู่ในเสมหะ ลอยไปในอากาศ หากพบผู้ที่มีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพาไปโรงพยาบาล หรือสถานีอนามัยใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาฟรี และถ้ามีข้อสงสัยถึงอาการของโรคและวิธีปฏิบัติ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 1422 และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทรศัพท์ 0 2590 3333
เสน่ห์ นามจันทร์/รายงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น