อดีตเจ้าหน้าที่พัสดีเรือนจำเชียงใหม่ ตายปริศนาในห้องพัก

เมื่อเวลา 12.30 น วันที่ 4 เม.ย.61 ขณะที่ ร.ตอ.ปฏิกร วังกาใจ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่เข้าเวรอยู่นั้น ได้มีนายเอนก วุฒิรัตน์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/1 ถนนราชวิถี ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ อาชีพช่างซ่อมรถยนต์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนและได้แจ้งว่า พี่ชายของตนซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่พัสดีเรือนจำเชียงใหม่ได้หายตัวไปได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ไปหาที่ห้องพักประตูก็ล๊อคจากภายในเรียกก็ไม่ตอบ โดยพี่ชายของตนพักอยู่ที่ห้องพักบ้านเลขที่ดังกล่าว เลข 98/1 โดยบ้านของตนนั้นจะแบ่งเป็นลักษณะคล้ายทาวเฮ้าส์สองชั้นแยกกัตนอยู่คนละห้องละหลังเลย พี่ชายของตนอยู่หลังแรก

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านพักของอดีตเจ้าหน้าที่พัสดีดังกล่าว พบกลิ่นโชยออกมา สันนิษฐานว่าเสียแล้วภายในห้องหรือบ้านดังกล่าว จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยรวมใจและพนักงานสอบสวน แพทย์เวร รพ.มหาราช นครเชียงใหม่ มาตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมใจได้งัดประตูด้านหลังเข้าไปภายในห้องหรือบ้านดังกล่าว

พบศพอดีตเจ้าหน้าที่พัสดีเรือนจำเชียงใหม่ นายอนันต์ วุฒิรัตน์ เสียชีวิตอยู่มุมห้องชั้นสองของบ้าน สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วันส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ตามตัวไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนเพื่อนบ้านที่อยู๋ในระแวกดังกล่าวทราบว่าผู้ตายนั้นมักไปเก็บหาขวดพลาสติกทั่วไปและมารวมไว้และนำไปขายต่อ ได้เงินมาก็จะไปกินเหล้าประจำ เวลาไม่เมาเหล้า ก็จะนิสัยดี แต่พอเมาก็จะมีอาการอีกอย่าง ชาวบ้านเคยเอาอาหารแบ่งให้กินบ้าง แต่พอเมาแล้วแสดงอาการคล้ายพวกโรคจิตใส่ชาวบ้าน ชาวบ้านจึงไม่อยากยุ่งด้วย

ทางด้านนายเอนก วุฒิรัตน์ น้องชาย ได้เปิดเผยว่า พี่ชายของตนนั้นเป็นอดีตเจ้าหน้าที่พัสดีเรือนจำเชียงใหม่ ต่อมาถูกไล่ออกจากราชการ และก็มาเก็บของเก่าขายได้เงินมาก็นำมาซื้อสุรามาดื่ม และมีอดีตหมอเพื่อนของผู้ตายได้นำอาหารมาให้เมื่อสองสามวันก่อนเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมมาเปิดประตู เพื่อนหมอผู้ตายก็ได้แขวนอาหารไว้นอกบ้าน มาอีกทีอาหารก็ยังอยู๋เหมือนเดิม จึงได้มาถามตนตนก็ได้มาแจ้งความกับตำรวจและก็พบกลายเป็นศพดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุน่าจะมาจากดื่มสุราเมาประกอบกับช่วงนี้อาการร้อนอบอ้าว ผู้ตายจึงได้เสียชีวิต อาจจะหัวใจหวายฉับพลัน โดยไม่มีใครเห็นก็อาจจะเป็นได้ ซึ่งได้ส่งศพให้เจ้าหน้าที่แผนกนิติเวชทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น