เชียงใหม่ติดโผดื่มหนัก ยอดภาษีอื้อ-อุบัติเหตุพุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายงานสำนักงานสถิติจังหวัดเชียงใหม่ ระบุหมวดรายได้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตช่วงปี 2555-59 ภาษีจากสุรารวมกันมากกว่า 5,600ล้านบาท และข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน จังหวัดเชียงใหม่ พศ.2559 ซึ่งสำรวจ 2 ครั้งต่อปีพบว่าค่าใช้จ่ายครัวเรือนขนาด 1-2 คน จากค่าเฉลี่ย 11,220 บาท ประมาณ 3-4 พันบาทเป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์
ข้อมูลที่สำนักงานสรรพสามิตที่ 5 สรุปผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิต ปีงบประมาณ 2561(ช่วง ตค.60-ธค. 60) เฉพาะสุราเก็บได้ประมาณ 684 ล้านบาท เฉพาะเชียงใหม่เก็บได้ปี 392 ล้านบาท จากยอด821 ล้านบาท ซึ่งประมาณการว่าปีนี้น่าจะเก็บได้ใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้มูลค่าทางการตลาดสุราหรือเหล้าสี จะมียอดภาษีเฉลี่ยปีละ4-5 หมื่นล้านบาท โดยช่วง กย.60-ธค.60 เฉลี่ยยอดเก็บภาษีเดือนละ5-6 พันล้าน ส่วนเบียร์ประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ช่วงเดียวกันพบว่าแค่กันยายน 60 เก็บภาษีเบียร์สูงถึง 8 พันล้านบาท ซึ่งยอดภาษีสุรา-เบียร์ในเชียงใหม่ที่จัดเก็บถือได้ว่า มีอัตราที่สูงติดอันดับ 1-10 ของไทย

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ของสำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า คนไทยดื่มติดอันดับ 4 ของโลก หากคำนวนค่าใช้จ่ายรวมของนักดื่มสูงถึงปีละ 2.2 พันล้านบาทในภาคเหนือ ขณะที่ทั้งประเทศอยู่ที่15.6 พันล้านบาท เฉลี่ยต่อคนต่อเดือน 882 บาท ภาคเหนืออยู่ที่ 585 บาทและกลุ่มผู้หญิงดื่มหนัก
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ เป็น 1 ในพื้นที่รณรงค์ลดการดื่มทุกช่วงเทศกาล รวมถึงสงกรานต์ด้วย ก็ยังพบว่า การตลาดเครื่องดื่มทั้งเหล้า-เบียร์ยังครองตลาดเหนียวแน่น ยอดรายรับเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง และอุบัติเหตุจากการดื่มก็ยังติดอันดับ 1 ในทุกปี