ตำรวจแห่งชาติ เตรียมพัฒนาสายด่วน 191 เป็นศูนย์รับแจ้งเหตุแห่งชาติ ช่วยเหลือประชาชนภายใน 10 นาที

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันเตรียมพัฒนาสายด่วน 191 เป็นศูนย์รับแจ้งเหตุแห่งชาติ เชื่อมโยงทุกหน่วยงาน เข้าช่วยเหลือประชาชนภายใน 10 นาที
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับสายประชาชนโทรศัพท์เข้ามาแจ้งเหตุรถยนต์ขัดข้อง บริเวณถนนพระราม 3 พื้นที่ สน.บางโพงพาง ระหว่างตรวจราชการศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือสายด่วน 191 โดยระบุว่า อนาคตรัฐบาลมีแนวคิดจะพัฒนาศูนย์ฯนี้ เป็นศูนย์ฯ 191 แห่งชาติ ศูนย์กลางการแจ้งเหตุทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการวางระบบเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง กรมการปกครอง กรมการแพทย์ และหน่วยงานเกี่ยวกับภัยพิบัติต่าง ๆ ที่จะสามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้มากถึงร้อยละ 90
ที่ผ่านมา ศูนย์ฯ 191 กระจายอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ยังไม่มีระบบที่สมบูรณ์ และเกิดความยากลำบากในการปฏิบัติงานในบางพื้นที่ อย่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่อันตราย การเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุนั้นทำได้ยาก หลังจากนี้ก็จะต้องมีการศึกษาและพัฒนาต่อไปผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่ผ่านมาที่ทำให้การดำเนินงานของศูนย์ฯ 191 ไม่ประสบความสำเร็จ มาจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีโทรศัพท์เข้ามาก่อกวนมากกว่า 1 แสนสาย ต่อปี ทำให้ประชาขนที่เดือดร้อนจริง ขาดโอกาสในการแจ้งเหตุและขอรับความเชื่อเหลือ อีกทั้งตำรวจบางนาย ที่ทำหน้าที่รับสายแจ้งเหตุไม่มีความเชี่ยวชาญด้านพื้นที่ จึงทำให้เข้าถึงประชาชนล่าช้า หลังจากนี้จึงมีแนวคิดจะนำตำรวจที่เกษียณอายุราชการมาช่วยปฏิบัติงาน เพราะมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันจะมีการกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำหน้าที่รับสายแจ้งเหตุ ให้บริการประชาชนด้วยความสุภาพ และความชัดเจนในการรับรู้ข้อมูลรายละเอียด โดยสำนักตำรวจแห่งชาติ จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานภายในศูนย์ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และตั้งเป้าในการเข้าช่วยเหลือประชาชนภายใน 10 นาทีพลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขั้นตอนหลังมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 แห่งชาติ ตำรวจจะต้องประสานไปยัง กสทช. เพื่อแก้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิของประชาชน ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าของตำรวจ ในการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที ซึ่งเชื่อว่าศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 แห่งชาติ จะเกิดขึ้นและมีความพร้อมทั้งระบบภายในอีก 2-3 ปี
ที่มาจาก : http://morning-news.bectero.com/social-crime/04-Apr-2018/121403

ร่วมแสดงความคิดเห็น