ทหาร ตำรวจ ลำปาง รวบสาว พัวพันยาเสพติดและเพิ่งพ้นคุก พร้อมยาบ้าเกือบแสนเม็ด

กำลังทหารและตำรวจโรงพักเขลางค์นครลำปาง รวบสาวเคยมีประวัติพัวพันยาเสพติดและเพิ่งพ้นคุก พร้อมยาบ้าเกือบแสนเม็ด หลังจากขยายผลจากผู้ต้องหาหนุ่มก่อนหน้านั้น

วันที่ 4 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 09.00น. ชุดสืนสวน สภ.เขลางค์ อ.เมือง จ.ลำปาง นำโดย พ.ต.ท.พินิจ เนตรปัญญา รอง.ผกก.สส. นำกำลังออกแกะรอยขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ หลังสืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาบ้าจำนวนมากมากระจายส่งขายในเขตอำเภอเมืองลำปางและอำเภอใกล้เคียง โดยชุดสืบสวนได้ไปดักซุ่มดูพฤติกรรมอยู่ที่หน้าหมู่บ้านแอร์พอร์ดวิลล่า ถนนสนามบิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง กระทั่งพบว่ามีชายต้องสงสัยรายหนึ่ง เดินอยู่ริมถนนหน้าหมู่บ้านท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าควบตัวเอาไว้ ภายหลังทราบชื่อนายกำพล หรือเบิ้ม กิ่งแก้ว อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 164/1 ม.3 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง โดยนายเบิ้มยอมรับสารภาพว่า เพิ่งนำยาบ้ามาส่งให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่บ้านเลขที่ 112/35 ซอย 1 หมู่บ้านแอร์พอร์ดวิลล่า และกำลังจะเดินทางกลับ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเสียก่อน


ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงเดินตามหาบ้านหลังดังกล่าว และก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังจะเดินเข้าบ้าน ซึ่งจำได้ว่าชื่อ น.ส.นภาพัฒน์ หรืออี๋ เนตรสุวรรณ อายุ 28 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 161 ม.5 บ้านป่าตัน ต.ป่าตัน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ชุดสืบสวนจึงตระโกนเรียกชื่อ แต่พอ น.ส.นภาพัฒน์ หันมาดูเห็นว่าเป็นตำรวจก็ได้รีบวิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านพร้อมกับชายวัยรุ่นคนหนึ่ง โดยปีนรั้วกระโดดหนีหายไป แต่ น.ส.หนีไม่ทันจึงถูกจับกุมตัวได้ จากนั้นจึงให้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นในห้องนอน และได้พบห่อของห่อใหญ่วางไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แกะออกดูเป็นพบยาบ้าอัดแน่นอยู่เต็ม เบื้องต้นนับได้ประมาณ 2.9 แสนเม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง และยังตรวจค้นสมุดธนาคารอีก 4 เล่มไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน น.ส.นภาพัฒน์ ให้การวกวน ซึ่งประวัติผู้ต้องหาหญิงรายนี้เมื่อประมาณ ปี 2558 น.ส.นภาพัฒน์ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี และเพิ่งจะออกจากคุกมาได้ไม่ถึง 6 เดือน แต่ก็ยังมีพฤติกรรมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและจะหนักมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมเพราะเข้าไปอยู่ในเครือข่ายเดียวกันกับ โจบ้านไร่ นักค้ายาบ้ารายสำคัญที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางลำปางอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้สอบสวนยังพบว่า น.ส.นภาพัฒน์ ได้ผันตัวเองขึ้นเป็นผู้ค้ารายใหญ่ สามารถสั่งของโดยตรงจากผู้ผลิตยาบ้าฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อนำมาจำหน่ายในพื้นที่อำเภอเมืองลำปางและอำเภอใกล้เคียง ส่วนชายวัยรุ่นที่กระโดดหนีไปได้นั้นยอมรับว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งจะมีข้อมูล ว่าเป็นลูกชายของบ้านหลังที่น.ส.นภาพัฒน์ พักอยู่โดยยอมรับว่าเพิ่งจะมาคบกันได้ไม่นาน และทราบว่านายเจน กำลังทำเรื่องเพื่อจะไปเรียนต่อยังต่างประเทศ แต่ก็มาเกิดเรื่องเสียก่อน ซึ่งตลอดเวลาของการตรวจค้นบ้านพักอยู่นั้น พ่อและแม่ของนายเจนอยู่ในบริเวณบ้านแต่ก็พูดอะไรไม่ออก ซึ่งเมื่อรู้ว่าลูกตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็ได้แต่บ่นและไม่น่าเชื่อว่าลูกชายจะเกี่ยวข้องด้วย ต่อมา พล.ต.ต.นิยม ด้วยสี ผบก.ตร.จว.ลำปาง พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา ผกก.สภ.เขลางค์ ได้มายังที่เกิดเหตุ โดยบอกว่าจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อการสืบสวนขยายผลต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น