สรรพากรส่องบัญชีธนาคารจ้องฟันแม่ค้าออนไลน์หลบหนีภาษี

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายมีหนาวแน่ เมื่อสรรพากรเตรียมแก้กฎหมาย เพื่อที่จะได้ตรวจสอบ เส้นทางการเงิน เพื่อนำมาจัดเก็บภาษี โดยตรวจจาก บัญชีธนาคาร คนไหนที่มีการ ฝาก-โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารบ่อยๆ คุณอาจจะกำลังเข้าข่ายถูกตรวจสอบภาษีในร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ที่กรมสรรพากรกำลังเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นกันอยู่ สิ้นสุด 15 เม.ย.นี้
โดยที่ใจความสำคัญของตัวร่าง พ.ร.บ.นี้ อยู่ที่การให้แก้ไขประมวลรัษฎากร มาตรา 3 สัตตรส ให้สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ มีหน้าที่ในการรายงานข้อมูลของบุคคลที่มีธุรกรรม ‘ลักษณะพิเศษ’ ของปีก่อน ให้กรมสรรพากรรับทราบภายในเดือนมีนาคมของปีนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีอากร
โดยธุรกรรมลักษณะพิเศษ ว่า ฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชีเกินกว่า 3,000 ครั้ง/ปี ฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชีเกินกว่า 200 ครั้ง/ปี และมียอดรวมธุรกรรมตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป และมียอดรวมของธุรกรรมฝากหรือรับโอนรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้น

ร่างกฎหมายที่ออกมาดังกล่าว เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ เพราะที่ผ่านมาการจำหน่ายสินค้าและบริหารผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมักจะมีการโอนเงินค่าสินค้าผ่านบัญชีธนาคาร หรือผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ หากสินค้าขายดี มีผู้ซื้อจำนวนมาก เมื่อส่งรายการไปให้กรมสรรพากรก็จะพิจารณาว่ามีลักษณะผิดปกติเกินกว่าบัญชีธรรมดา และประเมินว่าเป็นบัญชีเพื่อการค้าหรือไม่ ตามปกติแล้วหากมีรายรับเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเกินกว่ามูลค่าของฐานภาษีกิจการขนาดย่อม ต้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ยกเว้นบางกิจการที่ได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย

ร่วมแสดงความคิดเห็น