“เด็กจมน้ำตาย” และอุบัติเหตุจราจรมากที่สุด ช่วงสงกรานต์ 12-15 เม.ย.

“เด็กจมน้ำตาย”และอุบัติเหตุจราจรมากที่สุด ช่วงสงกรานต์ 12-15 เม.ย. แนะผู้ปกครองระมัดระวังไม่ปล่อยบุตรหลาน เล่นน้ำกันเองตามลำพัง

ทางศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก รพ.รามาธิบดี เปิดสถิติการเสียชีวิต จากอุบัติเหตุและความรุนแรงในเด็กายุ 1-14 ปี ในช่วง 10 ปีย้อนหลัง มีมากถึง 3,652 โดยพบว่าระหว่างวันที่ 12-15 เม.ย. ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีเด็กเสียชีวิตสูงสุด

นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ เปิดเผยว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตในเด็กไทย ร้อยละ 56 คือ การจมน้ำซึ่งเดือน เม.ย. เป็นช่วงหยุดภาคเรียน ทำให้เด็กมักชวนกันลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะ ไกลตาจากผู้ปกครอง ส่วนสาเหตุรองลงมาคือ อุบัติเหตุจราจร ซึ่ง 1 ใน 5 เป็นการโดยสารรถยสนต์ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่มีการเดินทางไกลเพื่อกลับถิ่นฐาน ผู้ปกครองอาจละเลยการใช้คาร์ซีท ทำให้เด็กต้องเจอแรงกระแทก หรือ กระเด็นออกจากตัวรถเมื่อเกิดอุบัติ เหตุ

ทั้งนี้ นพ.ฉัตรชัยแนะนำแนวทางป้องกันการจมน้ำ ผู้ปกครองควรระมัดระวังไม่ปล่อยบุตรหลาน เล่นน้ำกันเองตามลำ พัง ควรปลูกฝังให้รู้จักวิธีการช่วยเหลือคนจมน้ำเบื้องต้น ตามหลักการตะโกนขอความช่วยเหลือ โยนอุปกรณ์ที่ช่วยในการลอยตัว และยื่นกิ่งไม้หรือท่อต่างๆ ที่สามารถดึงตัวผู้ประสบเหตุขึ้นจากน้ำได้ นอกจากนี้ควรมีการจัดเวรดูแลเด็กให้ชัดเจน หากอยู่ในช่วงกำลังสนุกสนานกับเทศกาล

ขณะที่แนวทางการป้องกันความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ชุมชนจะต้องเตรียมพื้นที่ให้เล่นน้ำ โดยเฉพาะเน้นป้องกันการจมน้ำ การถูกรถชน การตกจากที่สูง และไฟฟ้าดูด รวมถึงควรงดการจำหน่ายสุรา และการให้อุปกรณ์ฉีดน้ำที่ไม่เหมาะสมในเขตพื้นที่เล่นน้ำ

ที่มา:LINE Today

ร่วมแสดงความคิดเห็น