หนุ่มใหญ่พยานคดี คนร้ายขโมยรถแบคโฮ ใช้เชือกผูกคอตายในรีสอร์ท อ.สารภี

หนุ่มใหญ่พยานคดี คนร้ายขโมยรถแบคโฮ และรถสิบล้อไปขาย ใช้เชือกผูกคอตาย ใต้ต้นไม้ในรีสอร์ท อ.สารภี จ.เชียงใหม่
หลังตำรวจออกหมายเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน แต่ยังไม่ทันไปให้ปากคำ ชิงผูกคอตาย ปริศนา ทางตำรวจยืนยันเป็นการฆ่าตัวตาย อยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์สาเหตุ การตายจากแพทย์อีกครั้ง

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 เม.ย. 61 นาย ศราวุธ อุดมสิท อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 42 ม.9 ต.คูเมือง อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ใช้เชือกผูกคอตาย บริเวณกิ่งต้นลำไย ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ หลังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจสารภีเชียงใหม่ออกหมายเรียก มาให้ปากคำ ในฐานะพยานปากเอก คดีตำรวจ จับกุมผู้ต้องหาขโมยรถแบคโฮ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ส่งไปให้นายทุน นำไปขายประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งนายศราวุธ ผู้ตายซึ่งเดินทาง มากับนายจ้างและภรรยา เพื่อมาให้ปากคำ ที่นายศราวุธ ผู้ตายเป็นนายหน้า ให้กับนายทุน จ้างรถเทอร์เลอร์มาบรรทุกรถแบคโฮจาก จ.เชียงใหม่ ไปยังพื้นที่ภาคตะวันออก ได้ค่านายหน้า เพียงแค่ 2 พันบาท

ซึ่งผู้ตายมาเช่าพัก ที่รีสอร์ทที่เกิดเหตุ อาศัยช่วงที่ภรรยาเผลอ ใช้เชือกผูกคอตายโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งภรรยาและนายจ้างเห็นว่าหายไป จึงเดินตามหาภายในรีสอร์ท จนกระทั่งไปพบว่าผูกคอตาย ที่ต้นลำไยภายในรีสอร์ท จึงช่วยกันประคองศพ จากจุดที่แขวนคอ ลงมานอนบนพื้น แต่ศรีษะไปกระแทกกับกิ่งลำไย จนมีบาดแผลท้ายทอย
จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ทำให้ทางนาย สรวิศิษย์ ทิพยมาศโกมล ผู้เสียหาย ที่ถูกขโมยรถแบ็คโฮเกิดความสงสัยในการตาย จึงเดินทางมาสอบถาม ที่สถานีตำรวจสารภีเชียงใหม่ ซึ่งทางพันตำรวจเอก สงกรานต์ สันวงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจสารภีเชียงใหม่ ชี้แจงว่า เป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากตรวจสอบกล้องวงจรปิด จุดที่ผู้ตายเดินผ่าน ไปยังจุดเกิดเหตุ ไม่มีผู้ใดเดินตามไป อย่างไรก็ตามขณะนี้รอผลการชันสูตรจากแพทย์อีกครั้ง