กรมชลฯ เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบ จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ช่วงวันที่ 16 – 17 เมษายน 2561

กรมชลฯ เตรียมพร้อมรับมือผลกระทบ จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ช่วงวันที่ 16 – 17 เมษายน 2561 จะมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร

นายทวีศักดิ์ธนเดโชพลรองอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่าตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งเตือนว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 15 – 18เมษายน2561 จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตกบางพื้นที่โดยในวันที่ 15 เมษายน 2561 จะมีผลกระทบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ช่วงวันที่ 16 – 17 เมษายน 2561 จะมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและในวันที่ 18 เมษายน 2561 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกจะมีฝนลดลงส่วนบริเวณภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องนั้น

​ปัจจุบัน สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางมีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันทั้งสิ้น49,450ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้านลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ65ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมดมากกว่าปี2560รวม6,675ล้านลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้25,530ล้านลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ49(ปี2560มีน้ำใช้การได้18,800ล้านลบ.ม.) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา4เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกัน14,634ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ59ของความจุอ่างฯรวมกันมีปริมาณน้ำมากกว่าปี2560รวม2,913ล้านลบ.ม. และมีปริมาณน้ำใช้การได้7,938ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ44(ปี2560มีน้ำใช้การได้5,025ล้านลบ.ม.)

​ทั้งนี้กรมชลประทานได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทาน บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น จากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งให้ตรวจสอบระบบอาคารชลประทานและเครื่องจักรเครื่องมือให้สามารถใช้การได้อย่างเต็มศักยภาพเพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันต่อเหตุการณ์จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด หรือหากท่านใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถประสานไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ของตนได้ตลอดเวลา

ร่วมแสดงความคิดเห็น