ปลูกเบญจมาศตัดดอก ที่เชียงใหม่ แค่ 1 ตำบล..โกยรายได้ปีละ 500 ล้านบาท

เชียงใหม่ได้รับสมญาว่า เป็นดินแดนแห่งมวลบุปผาชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ ปลูกพืชผักผลไม้ ต้นอะไรๆแค่ดูแลใส่ใจบ้างก็งอกงามดี จึงเป็นอีกทำเลทองของนักลงทุน ทั้งคนไทย-ต่างชาติมาปักหลักเพาะผลผลิตส่งขาย ส่งออก


“เบญจมาศ” เป็นไม้ตัดดอก ที่มีมูลค่าการผลิตติด 1 ใน 4 อันดับแรกของไม้ตัดดอกทั่วโลก ในไทยปลูกมากที่เชียง ใหม่ เชียงราย นิยมปลูกแบบดอกช่อมากกว่าแบบดอกเดี่ยว เนื่องจากดูแลง่าย ออกดอกทั้งปี ผลผลิตปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ทำให้ต้องนำเข้ากว่า 25-30 ล้านบาทต่อปี

ใน ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม ชาวบ้านไม่ถึง 9 หมู่บ้าน ปลูกเบญจมาศตัดดอกขาย สร้างรายได้ดีปีละกว่า 500 ล้านบาท ปลูกดอกไม้มากสุดในเชียงใหม่ ขึ้นทะเบียน 472 ครอบครัว ส่งปากคลองตลาด ตลาดไท สี่มุมเมืองและตามออเดอร์ทั่วไทย รายได้ต่อครัวเรือนปีละเกือบล้านบาท พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก จะมีทั้งพันธุ์ดอกเดี่ยว ช่อ พันธุ์ขาวใหญ่ เหลืองคาเมล ดอกแลสเตอร์ ดอกพีค๊อก ดอกหงอนไก่ และดอกไม้อื่นๆที่ตลาดต้องการ

ที่บ้านหนองเขียว ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม ใกล้ๆกัน “พี่มนต์ ลุงปา” ในวัย 50 ปี เล่าให้ฟังว่าปลูกเบญจมาสตัดดอกขายส่งร้านดอกไม้ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีที่ปลูกแค่ 2 งานกว่าๆ ตั้งแต่เพาะกล้า ลงแปลงปลูก ภายใน 4 เดือน ก็ตัดดอกขายได้ทุกวันแล้ว ปีนี้ราคาดี ดอกละ 5 บาท เก็บขายได้เฉลี่ย 1-3 พันดอกต่อวัน ก็พออยู่ได้สบายๆ รอบหนึ่งตัดดอกขายมีรายได้ราวๆแสนบาท

ผู้สื่อข่าวมีโอกาสไปเยี่ยมแปลงปลูกดอกเบญจมาศแห่งหนึ่ง ละแวกบ้านโปง อ.สันทราย เชียงใหม่ จากการพูดคุยกับน้องนักศึกษาแม่โจ้ในสวนเบญจมาศแห่งหนึ่ง เล่าว่า เป็นสวนรุ่นพี่ ที่เปิดโอกาสให้น้องๆมาหารายได้พิเศษในวันหยุด
เบญจมาศเป็นพืชอายุสั้น ประเทศไทยมีช่วงกลางวันสั้นกว่า 16 ชั่วโมง ตลอดทั้งปีจึงจำเป็นต้องให้แสงช่วงกลางคืนแก่เบญจมาศตลอด จะให้มีช่วงมืดไม่เกิน 4 ชั่วโมงในแปลง

วิธีการปลูก เริ่มจากเตรียมเพาะกล้า นำลงแปลงชำรากกล้าต้นอ่อนอายุ 1 สัปดาห์ ที่ได้ผสมดินทราย 1 ส่วน ดินร่วน 1 ส่วน ถ้าเป็นดินใหม่ไม่เคยปลูกพืชมาก่อนจะดีมาก คลุกให้เข้ากันตักลงกะบะแปลงเพาะรากต้นอ่อน ( ขนาดกว้าง 1 ม.ยาว2-3 ม.) หนาประมาณ 10 ซม.รดน้ำพอชุ่ม ก่อนนำต้นอ่อนชำรากลงแปลงให้จุ่มรากต้นอ่อนในน้ำยาเร่งรากไม้ดอกก่อนแล้ว จึงปักชำระยะห่างต้นและแถว 1-2 ซม. กดลึกประมาณ 2-3 ซม.ไปเรื่อยๆจนสุดแปลง

แปลงชำรากต้องอยู่ในโรงเรือน ติดหลอดไฟ 100 วัตต์ ประมาณ 3-5 หลอด เพื่อกกไฟให้ต้นอ่อน แนะนำว่าต้องแบ่งชำเป็นรุ่นๆ ต่อเนื่อง รดน้ำวันละ 1 ครั้งก็พอ ประมาณ 2 สัปดาห์ ย้ายลงต้นอ่อนที่ชำรากไว้ลงแปลงปลูกปกติที่เตรียมรอตัดดอก ตัดช่อขายได้เลย

จากการสอบถามเจ้าของสวน ทราบว่าต้นกล้าคละสีดอกช่อต้นละ 2.5บาท ขั้นต่ำสั่ง 200 ต้นขึ้นไป ถ้าเบญจมาศเดี่ยวดอกใหญ่ต้นกล้าละ 5 บาท ค่าจัดส่ง 200 บาท

ก่อนจะลงมือปลูกต้นกล้าที่สั่งซื้อ หรือเพาะชำรากจนได้ที่ตามระยะไม่เกิน 7 วันนั้น ให้เตรียมดินแปลงขนาดกว้าง 1 ม. ยาว 20 ม. ตากดินอย่างน้อย 7 วัน ขึงพลาสติกสำหรับปลูกดอกไม้ให้สุดแปลง นำไม้ไผ่มาผูกยึดทุกระยะ 2 ม.เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ปลูกตามช่องตาข่ายที่ขึงไว้

หลังปลูก 7 วัน ให้ใส่ปุ๋ยคอกประมาณ 30 กก./แปลง โรยตรงร่องระหว่างแถวของต้นแล้วเริ่มให้ไฟวันละ 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 22.00 – 02.00 น. ต่อเนื่อง 25 วัน และเมื่อดอกอายุ 15 วัน ให้พรวนดิน แล้วใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 แปลงละ 0.5 กก. เพื่อเร่งรากและใบ

เมื่อดอกอายุ 1 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 อีกครั้ง ในอัตราเท่าเดิม ครบ 60 วัน ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 อัตรา 1 กก./แปลง แล้วเริ่มแต่งตาดอก เด็ดก้านดอกข้างลำต้นให้เหลือตรงปลาย 4-5 ดอก เพราะดอกกลางจะบานก่อนเพื่อน หลังแต่งตาดอก 25 วัน ดอกเบญจมาศจะเริ่มแย้ม และบานพร้อมกันทั้งหมดใน 30 วัน ก็จะสามารถทยอยเก็บดอกไม้เพื่อเริ่มจำหน่ายได้เรื่อยๆ แล้วแต่ความสมบูรณ์ของดอก การตัดดอกแนะว่าให้ตัดห่างโคนต้น ประมาณ 15-20 ซม. ปรับขนาดก้านดอกตามความต้องการของตลาด แต่โดยรวมก้านต้องไม่ยาวเกิน 60 ซม.

ปกติดอกเบญจมาศต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 103 วัน จะได้ดอกเบญจมาศที่สวย สมบูรณ์ และก้านตรง ตรงตามความต้องการของตลาด สนใจอยากมีรายได้ปีละล้าน..เริ่มปลูกกันเล๊ย!!!

ร่วมแสดงความคิดเห็น