ตำรวจลำปางสองโรงพัก ร่วมกับทหาร วิ่งไล่จับไอ้แซม หนุ่มบ้านต้นยาง ลักลอบเป็นนักค้ายาบ้า

ตำรวจลำปางสองโรงพัก ร่วมกับทหาร วิ่งไล่จับไอ้แซม หนุ่มบ้านต้นยางหลังสืบทราบว่าลักลอบเป็นนักค้ายาบ้า เจ้าหน้าที่ล่อซื้อกลับไหวตัวทัน วิ่งหลบหนีแต่ในที่สุดก็ไปไม่รอด ถูกจับพร้อมของกลางยาบ้า 400 เม็ด ก่อนจะรับสารภาพว่า เป็นของตนเองและเตรียมเอาไว้ขาย

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 เวลา 17.30 น. โดยการอำนวยการ สั่งการของ พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา ผกก.สภ.เขลางค์นคร ลำปาง พ.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองลำปาง, พ.ต.ท.พินิจ เนตรปัญญา รอง ผกก.สส.สภ.เขลางค์นคร พ.ต.ท.ประสิทธิ์ หล้าสมศรี สวป.สภ.เมืองลำปาง หน.ชุด ปส.สภ. เมือง ลำปาง สภ.เขลางค์นคร พ.ต.ต.สายันต์ หมอกฤทธิ์ สว.สส.สภ.เขลางค์นคร พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายวีรยุทธ หรือแซม ณ ลำปาง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 4 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำ ปาง โดยกล่าวหาว่า พยายามจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

โดยก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายแซม ชาวบ้านต้นยาง ม.4 ต.พิชัยฯ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้า และในวันดังกล่าว นายแซม มียาบ้ารอไว้เพื่อจำหน่ายแล้ว ชุดสืบสวนจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ จากนั้นจึงได้ให้สายลับโทร ศัพท์ไปติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายแซม จำนวน 2 ถุง (400 เม็ด) ปรากฏว่านายแซม ตอบตกลงจะจำ หน่ายให้ในราคา 15,000 บาทโดยนัดส่งมอบกันที่บริเวณหลังศาลาที่พักริมทาง หน้าวัดเข้าแก้ว หมู่ 3 ต.พิชัยฯ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของ สภ.เมืองลำปาง

จึงได้ทำการประสานกับ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ หล้าสมศรี สวป.สภ.เมืองลำปาง หน.ชุด ปส.สภ.เมืองลำปาง นำเงินสดล่อซื้อจำนวน 15,000 บาท ถ่ายเอกสาร ไว้เป็นหลักฐาน และได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.32 ร่วมทำการล่อซื้อ

กระทั่งนายแซมได้ขับรถ จ.ย.ย. ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 1กจ 8461 ลำปาง ขับขี่เข้ามาจอดบริเวณศาลาหน้าวัดม่อนเขาแก้ว ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัว นายแซมเมื่อเห็นดังนั้น จึงได้ทิ้งห่อวัตถุสีฟ้าลงกับพื้น แล้ววิ่งหลบหนีไป กำลังเจ้าหน้าที่จึงพากันไล่ติดตามจนสามารถจับกุมไว้ได้ แล้วพาตัวมาที่จุดที่ทิ้งห่อสีฟ้าไว้ และเมื่อเปิดออกดูพบว่าเป็นยาบ้าจำนวน 2 ถุงรวม 400 เม็ด สอบสวนเบื้องต้นนายวีรยุทธ ได้ให้การยอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าว เป็นของตนเองจริงโดยเตรียมนำมาเพื่อจำหน่าย จนท.จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป