“สักยันต์-สักลาย” ยอดฮิตของคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน แต่เป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ไม่สามารถเข้ารับราชการได้

“สักยันต์-สักลาย”ยอดฮิตของคนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันกลายเป็นศิลปะบนเรือนร่าง แต่เป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ไม่สามารถเข้ารับราชการได้
การสักยันต์นั้น มีเรื่องราวที่ถูกบันทึกและสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ พบเห็นอยู่ทั่วโลก แต่จะแตกต่างกันไปตามความเชื่อและวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาค ในประเทศไทยการสักยันต์ลวดลายที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในบรรดาผู้ที่นิยมการสักคือ ลวดลายสักที่ให้ผลทางไสยศาสตร์ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิด คือเพื่อผลทางเมตตามหานิยม และเพื่อผลทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีให้แคล้วคลาดจากของมีคม อุบัติเหตุ หรืออันตรายทั้งปวงถ้าเป็นการสักเพื่อผลทางเมตตามหานิยมมักจะสักเป็นรูปจิ้งจก หรือนกสาลิกาเพื่อเป็นตัวแทนของความมีเสน่ห์เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป โดยเฉพาะให้ผลดีทางการเจรจา ค้าขายทำให้เจริญรุ่งเรืองทำมาค้าขึ้น ส่วนลายสักเพื่อผลทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี จะนิยมสักลวดลายซึ่งเป็นตัวแทนความดุร้ายความปราดเปรียว ความสง่างาม ความกล้าหาญ ได้แก่ลายเสือเผ่น หนุมานคลุกฝุ่น หงส์ และลายสิงห์ เป็นต้น หรือเป็นลายที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันภยันตราย เช่น เก้ายอด ยันต์เกราะเพชร หรือลายยันต์ชนิดต่างๆ
ความนิยมในการสักยันต์ด้านไสยศาสตร์นี้ จึงมีเกจิอาจารย์สักยันต์เกิดขึ้นมากมายเป็นทั้ง”พระ-ฆราวาส” บางรูปบางคนมีชื่อเสียงมากเป็นที่นิยมของคนมากมาย โดยเฉพาะคนดังมีชื่อเสียงด้านบันเทิง นักกีฬา ทั้งชายและหญิง ไม่เพียงแต่คนดังในประเทศไทยเท่านั้น ไปถึงต่างประเทศที่นิยมเข้ามาสักยันต์ด้านไสยศาสตร์มากมายเช่นกัน การสักยันต์ของเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของไทย แต่ละครั้งนั้นต้องจ่ายค่าขึ้นครูเป็นเงินเรือนหมื่นเรือนแสน แต่ละปีสร้างรายได้เข้าประเทศนับพันล้านบาทกันทีเดียว
นอกจากการสักยันต์(ขอมไทย)แบบโบราณแล้วที่ใช้เหล็กแหลมสักด้วยน้ำหมึก สักแต่ละมีความเจ็บปวดมากเมื่อเหล็กแหลมทิ่มลงไปในเนื้อและการสักก็ใช้เวลานาน ปัจจุบันมีการใช้เครื่องสักไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้ามาใช้กันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นอาชีพ”สักลาย”ที่ฮิตในกลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิงทั่วไป เนื่องจากไม่เจ็บปวดมากเท่ากันการสักยันต์ และใช้เวลาที่รวดเร็วกว่า ซึ่งการสักลายประเภทนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สักว่าจะเอารูปอะไรมีหลายแบบให้เลือก หญิงสาวบางคนใจถึง สักลายบนเรือนร่างทุกแห่งไม่เว้นแต่ของลับของสงวน จุดประสงค์ก็คือความสวยงามโดดเด่นเป็น”ศิลปะบนเรือนร่าง”เท่านั้น

ถึงแม้ว่าการสักยันต์หรือสักลาย เต็มตัวเป็นที่ยอมรับของคนในปัจจุบันมากขึ้น”แต่ก็เป็นสิ่งต้องห้าม ไม่สามารถเข้ารับราชการได้” จึงเป็นเรื่องเตือนสติคนหนุ่ม-สาว ที่ยังอยู่ในวัยเล่าเรียน ได้คำนึงถึงการสักไว้ เพราะพลาดพลั้งสักไปแล้ว การลบออกเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก อีกทั้งอาจพลาดเข้ารับราชการไปตลอดชีวิต
ภาพประกอบ:อินเทอร์เน็ต
เสน่ห์ นามจันทร์/รายงาน

ร่วมแสดงความคิดเห็น