ชาวบ้านต่อต้านไม่เอาท่าทรายท่าน้ำกก ท่าตอนเชียงใหม่ไม่หยุด จะไปพบนายกรัฐมนตรีและปิดถนน

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 เวลา 10.00 น.ชาวบ้าน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้รวมตัวกันที่สะพานหมู่ที่ 14 เพื่อขอให้เจ้าของท่าทรายหยุดทำการสัมปทานท่าทรายใหม่ในพื้นที่หมู่บ้านของชาวบ้าน เพราะว่ามีท่าทรายทำมาแล้วจำนวนมากถึง 5 แห่ง และสร้างปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ ชาวบ้านรวมตัวเพื่อขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หรือตัวแทน เพื่อมารับทราบข้อมูลและแจ้งให้ทราบถึงปัญหาของชาวบ้านที่ออกมาต่อต้านที่ไม่เอาท่าทราย พร้อมยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
แกนนำชาวบ้านคือ พันตรีบุญโรจน์ กองแก้ว ที่ออกมาต่อต้านการสัมปทานท่าทราย เพราะท่าทรายที่ทำอยู่ท่าน้ำกก หมู่ที่ 4 บ้านท่าตอน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย เตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนไม่เอาบ่อทรายหรือท่าทราย โดยจะทำการปิดถนนช่วงบนสะพานท่าตอนระหว่างหมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 14 บ้านท่าตอน อย่างไรก็ตามยืนยันจะชุมนุมกันอย่างสงบเพื่อรอตัวแทนจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่มารับหนังสือ แต่ถ้าไม่มีตัวแทนผู้ว่าฯมารับหนังสือก็จะทำการปิดถนนทันที โดยให้เวลาก่อนเที่ยงของวันเดียวกันนี้
การรวมตัวครั้งนี้มีชาวบ้านกว่า 550 คนได้ออกมาแสดงเจตจำนงค์ไม่ขอรับการสัมปทานท่าดูดทรายในครั้งนี้ ต่อมาเวลาประมาณ 11.30 น ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คือนายสุภักต์ ปักษาจัน ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ และนายขจิตต์ บำรุงปรีชา ผู้ตรวจราชการกรมที่ดินฯ ได้มาทำการรับเอกสารหนังสือยื่นคำร้องไม่เอาท่าทรายไม่ยอมให้สัมปทานเพิ่ม ยื่นหนังสือต่อตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และ คสช. และยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการกองทัพบก พร้อมกันนั้นยื่นหนังสือถึง นายก อบต.ท่าตอนด้วย
หลังจากยื่นหนังสือทางชาวบ้านทั้งหมดขอให้เวลาทุกหน่วยงานที่ยื่นหนังสือไป ขอคำตอบภายใน 15 วันว่าจะทำการยกเลิกหรือไม่ แต่ทางนายสุภักต์ ปักษาจัน ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ขอเวลาในการดำเนินการในช่วง 3 เดือน 90 วัน ทางชาวบ้านได้รับฟังและพอใจจึงได้สลายตัว
จากนั้นตัวแทนหน่วยงานทางราชการ พร้อมทั้งชาวบ้านได้ตรวจพื้นที่ที่จะสัมทานกรณีที่เกิดปัญหา เพื่อจะได้นำเสนอต่อทางผู้บังคับบัญชาต่อไป และคาดว่าการสัมปทานจะไม่ผ่านเพราะชาวบ้านหลายหมู่บ้านได้ร้องเรียนด้วยเหตุและผลหลายประการ ปัญหาที่พบคือทำให้ร่องน้ำเปลี่ยนทิศทาง สองฝั่งน้ำพังทะลายบริเวณกว้าง ทำให้ระบบนิเวศน์เสีย ถนนหลวงทรุดตัวเพราะรถบรรทุกเกินน้ำหนักที่กำหนดวิ่ง และอันตรายต่อเด็กและชาวบ้านในการสัญจรไป-มาในหมู่บ้าน ชาวบ้านจะรอรับฟังการพิจารณาของหน่วยงานทางราชการต่อไป ถ้ายังมีการสัมปทานจะปิดถนนแบบถาวรแน่นอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น