ให้เป็นไปตามกฎหมาย ญาติฝั่งคนเจ็บที่โดนสาวซิ่งเก๋งชนขณะติดไฟแดงเผย ผู้บาดเจ็บอาการยังน่าห่วง

ให้เป็นไปตามกฎหมาย ญาติฝั่งคนเจ็บที่โดนสาวซิ่งเก๋งชนขณะติดไฟแดงเผย ผู้บาดเจ็บอาการยังน่าห่วง ขณะที่เพื่อนอยู่ในเหตุการณ์ยังขวัญผวา
ญาติของผู้บาดเจ็บ
วันที่ 16 พ.ค.61 รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่ครอบครัวและญาติของนางสุชาดา คำมาลัย อายุ 54 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์จอดติดไฟแดงที่ถูกรถยนต์เก๋งยาริสสีขาวชนแล้วหลบหนีไปได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อคืนวันที่ 9 พ.ค.61 พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสันทรายเพื่อให้ปากคำ วานนี้ (15 พ.ค.61) โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนขับชน ผู้ได้รับบาดเจ็บ

และภายหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว นางสาวพิมพาภรณ์ ธรรมวัตร อายุ 35 ปี หลานสาวของนางสุชาดา คนขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บของนางสุชาดา ซึ่งเป็นอา ยังสาหัสและอยู่ในขั้นวิกฤติ ต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูตลอดและแพทย์ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด แม้จะขยับตัวได้เล็กน้อยแต่ยังไม่รู้สึกตัวและไม่ตอบสนองใดๆ สำหรับการดำเนินการกับคู่กรณีนั้น ทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายจนถึงที่สุด ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหากับคู่กรณีนั้น เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา และต้องรอสอบปากคำนางสุชาดาเสียก่อน แต่เวลานี้ยังบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถให้การใดๆ ได้ ขณะที่สภาพจิตใจของคนในครอบครัวนั้น ย่ำแย่อย่างหนักเพราะอาการของอายังไม่พ้นขั้นวิกฤติ
ด้านนางดานุเรศ เขยฟู อายุ 54 ปี เพื่อนของนางสุชาดา และเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยขณะเกิดเหตุ เนื่องจากนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์อีกคันที่จอดติดไฟแดงด้วยกัน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุได้ไปรับประทานอาหารที่บ้านเพื่อนไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ เสร็จแล้วขับจักรยานยนต์กลับบ้านพร้อมกัน 2 คัน และจอดติดไฟแดงที่จุดเกิดเหตุ โดยนางสุชาดา จอดทาด้านขวา อยู่ๆ รถเก๋งสีขาวได้พุ่งเข้ามาชนจากด้านหลัง หลังจากนั้นได้เร่งเครื่องขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ร่างของนางสุชาดา ได้กระเด็นลอยขึ้น และตกลงมากระแทกพื้นถนนอย่างแรง ส่วนตัวยังถูกเศษชิ้นส่วนรถกระเด็นมาถูกที่บริเวณแขนและตกใจขวัญผวาอย่างมากจนร้องไห้ ก่อนที่จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล

นอกจากนี้ นางดานุเรศ บอกว่า จนถึงเวลานี้ยังรู้สึกขวัญผวาและเสียใจมากที่เห็นเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ตัวเองที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ซึ่งจากเหตุการณที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเองในครั้งนี้ อยากทวงถามหาจิตสำนึกของคนขับรถเก๋งคันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าคนขับรถเป็นผู้หญิงว่า ทำไมชนแล้วหลบหนีไปแทนที่จะจอดลงมาให้การช่วยเหลือ ไม่ใช่แค่อ้างว่าตกใจ ซึ่งอยากให้ทางคนขับรถเก๋งแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น