ป.ป.ส.และ ตร.จับเครือข่ายยาเสพติด “โกฉิ้น”

ป.ป.ส. และตำรวจภูธรภาค 9 บูรณาการปราบปรามทำลาย เครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ “เครือข่าย นายปรมินทร์ หรือโกฉิ้น โตเต็มที่”

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) มอบหมายให้ นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันทัด วินสน รอง ผบก.ภ.จว. ตรัง  น.ส.จันทร์เพ็ญ จิตร์วิวัฒน์ ผอ.ปปส.กทม. นายเรืองยศ รัตนอุรดินทร์ ผอ.ปปส.ภาค 2 นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภาค 8 นายสุรพล ภัทรปกรณ์ ผอ.ปปส.ภาค 9
แถลงผลการบูรณาการปราบปราม ทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ “เครือข่าย นายปรมินทร์ หรือโกฉิ้น โตเต็มที่” ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบนำยาบ้า และไอซ์มาจำหน่ายครั้งละหลายล้านเม็ด ในพื้นที่จว.ตรัง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 20 ล้านบาท ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส.(ดินแดง) เมื่อบ่ายวันที่ 1 มิ.ย.61

จากนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคง เร่งรัดดำเนินการต่อนักค้ารายสำคัญ ที่มีผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน

สำนักงาน ป.ป.ส. กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมบูรณาการสืบสวนทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง เป็นหน่วยงานนำร่องในการทำลายนักค้ารายสำคัญ โดยมุ่งเน้นกลุ่มนายทุนที่มีศักยภาพ ในการซื้อขายยาเสพติดจำนวนมาก มีการจับกุมนักค้ายาเสพติด ในพื้นที่จำนวน 5 เครือข่าย
โดยเฉพาะการจับกุม นายนภดล สมาพงษ์ พร้อมยาบ้า 115,030 เม็ด และการจับกุม นายสมคิด ยอดการ พร้อมยาบ้า 490,000 เม็ด ซึ่งเครือข่ายทั้งหมดมีความเชื่อมโยง กับนายปรมินทร์ หรือโกฉิ้น โตเต็มที่ ซึ่งเป็นนายทุนสั่งการ โดยมีการสั่งยาบ้ามาจำหน่ายในพื้นที่ เดือนละ 3,000,000 เม็ด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ประสานความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 กับนายปรมินทร์ หรือโกฉิ้น โตเต็มที่ ซึ่งต่อมาศาล จ.ตรัง ได้อนุมัติหมายจับให้ดำเนินคดี ในข้อหาสมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ แก่นายปรมินทร์ ฯ

กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สืบทราบว่า นายปรมินทร์ฯ และเครือข่าย คือนายทศวรรษ หรือบอส แป้นชุม ได้นำทรัพย์สินหลบหนีการจับกุมของ จนท.มาอยู่อาศัยอยู่ที่ กทม.และจันทบุรี จึงได้ประสานสำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการสืบสวนจับกุมและยึดทรัพย์ จนกระทั้งสามารถจับกุม นายปรมินทร์ฯ ได้ที่บ้านเลขที่ 19/40 หมู่บ้านเดอะฮิวล์ ม.10 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี และยังมีทรัพย์สินซุกซ่อนอยู่ที่ ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี, คอนโดฟอร์โมซ่า และคอนโด ดิ อิสระ ถ.ลาดพร้าว แขวงจอมทอง เขตจตุจักร
โดยได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สิน รวมมูลค่า 15,450,000 บาท ได้แก่ เงินสดจำนวน 2,000,000 บาท, ทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม ประมาณ 50 บาท มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท, บ้านพร้อมที่ดิน เลขที่ 19/40 ม.10 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี มูลค่า 3,000,000 บาท, เรือสปีดโบ๊ท มูลค่า 2,500,000 บาท, รถยนต์เก๋งยี่ห้อ Mercedes-Benz รุ่น GLA200 1 คัน มูลค่า 1,800,000 บาท, รถยนต์ BMW ราคาประมาณ 900,000 บาท, รถยนต์ HONDA NEW CIVIC มูลค่า 1,000,000 บาท, รถจยย. ยี่ห้อ Ducati ราคา 250,000 บาท, คอนโด ฟอร์โมซ่า มูลค่า 3,000,000 บาท

นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมเครือข่ายได้อีก 1 ราย คือ นายทศวรรษ หรือบอส แป้นชุ่ม ได้ที่หลบซุกซ่อนที่ห้องพักเลขที่ 296/189 ชั้น 17 คอนโดอิสระ ลาดพร้าว พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 4,120,000 บาท ดังนี้ เงินสด 1,800,000 บาท, รถยนต์ Mercedes-Benz รุ่น SLK มูลค่า 1,000,000 บาท, รถจยย. ยามาฮ่า รุ่น ER 6 มูลค่า 120,000 บาท, ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 60 บาท มูลค่า 1,200,000 บาท

โดยการจับกุม เครือข่าย นายปรมินทร์ฯ ในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการปราบปราม ทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ นับเป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน และเป็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.มาตร การในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ในการยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด อีกทั้งยังเป็นการทำลายเครือข่าย และโครงสร้างการค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้น ที่ภาคใต้ ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพปัญหาการ แพร่ระบาดยาเสพติดของประเทศ และเป็นการลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ร้องเรียนเข้ามาทางสายด่วน 1386 ของสำนักงาน ป.ป.ส. ตามนโยบายของรัฐบาล

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น