ทนายคดีนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมดังชนเผ่า ยังสู้ขอให้เจ้าหน้าที่นำพยานหลักฐานกล้อง วงจรปิดมาเปิดเนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญ

ทนายคดีนายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมดังชนเผ่า ยังสู้ขอให้เจ้าหน้าที่นำพยานหลักฐานกล้อง วงจรปิดมาเปิดเนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญ

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นายสุมิตรชัย หัตถสาร นายรัษฎา มนูรรัษฎา ทนายความศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชน ทนายความ นายชัยภูมิ ป่าแส และนายคิงสลีย์ แอ๊บบอล คณะกรรมการ นักติศาสตร์ สากล และที่ปรึกษากฎหมายอาวุโส โครงการเอเชีย แปซิฟิค นำญาตินายชัยภูมิ ป่าแส นักคลื่นไหวด้านสิทธิมนุษยชน นักวิชาการด้านตินิศาสตร์ จำนวนกว่า 30 คน ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 45 นาที

นายรัษฎา มนูรรัษฎา กล่วว่า คำพิพากษาของศาลวันนี้ ศาลได้สั่งมาว่า การเสียชีวิตของนายชัยภูมิ ป่าแส จากที่พลทหารสุรศักดิ์ ใช้อาวุธปืน M 16 ยิงทำให้ถึงแก่ความตาย และตายที่ด่านดินหลวง เป็นด่านทหาร ประเด็นที่ ฝ่ายผู้ร้องกล่าวอ้างในคำร้อง ของอัยการร้อง ว่าพลทหารจำเป็นต้องใช้อาวุธยิง อ้างว่าผู้ตายจะใช้อาวุธมีด และมีระเบิดอยู่ในมือทำต่อสู้กับเข้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ป้องกันตัว ประเด็นนี้ศาลไม่ได้วินิจฉัยในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่โต้งเถียงกันอยู่ในมุมของฝ่ายผู้คันค้าน เพราะว่าญาติผู้ตายบอกว่าผู้ตายไม่ได้ต่อสู้เจ้าหน้าที่ ซึ่งศาลเองให้ใช้สิทธิฟ้องร้องกันอีกคดีส่วนหนึ่งต่างหาก หมายความว่า ครั้งนี้ยังไม่ตัดสิน ครอบครัวจะสามารฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย ส่วนทางอาญาจะฟ้องทหารไม่ได้ เพราะกฎหมายทหารจำกัดอำนาจของประชาชน ในการเข้าถึง ดังนั้นต้องให้อัยการสั่งทหารเป็นฟ้อง

ดังนั้นเราจะพยายามที่จะหาข้อมูลข้อเท็จจริงให้ศาลมากที่สุดเท่าที่จะหาได้ เรื่องภาพกล้องวงจรปิดด่านจุดเกิดเหตุดินหลวง ซึ่งไม่เข้ามาสู่ในสำนวนคดี เพราภาพทหารที่ส่งภาพให้ตำรวจนั้น ตำรวจพิสูจน์แล้วแจ้งว่าไม่มีภาพในเหตุการณ์ ของวันที่ 7 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 น.ก็แสดงให้เห็นว่าภาพเหตุการณ์ จุดสำคัญหายไปในวันดังกล่าวหายไป ดังนั้นจึงต้องฝากไปยังผู้บังคับบัญชา ทหารและตำรวจ ต้องสั่งการสอบสวนภาพสำคัญ ที่ทำในสำเนาอยู่ที่ใคร เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนและสังคมให้ความสานใจกัน

สำหรับในขั้นตอนต่อไปนั้น ทางครอบครัวผู้ตายมีสิทธิที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ประกอบกับเป็นครอบครัวที่มีฐานะยากจน ในส่วนของทีมงานทนายพร้อมที่จะดูแลและช่วยเต็มที่ ถ้าเสนอไปยังหน่วยงานคุ้มครองสิทธิ หรือให้การช่วยเหลือด้านสิทธิฯ คิดมีหน่วยงานที่คงให้การช่วย จากที่ไปทีมงานทนายต้องปรึกษากันอีกรอบ ในการไต่สวนการวิสามัญ หรือการตายจากกระทำของเจ้าหน้าที่ ศาลเท่านั้นที่จะพิสูจน์ความจริงให้ปรากฎ เพื่อให้ได้ข้อเท็จที่ทุกคนสงสัยอยู่เนื่องจากฝ่ายทหารอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเขา การยิงเพื่อป้องกันตัว ขณะที่ญาติของผู้ตายเองก็พร้อมที่จะให้พยานที่เห็นเหตุการณ์ที่จะมาสืบพยานในศาล ว่าเจ้าหน้าที่ทหารทำร้ายนายชัยภูมิ

ด้านนายชัยภูมิไม่ได้ต่อสู้กลับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด นี้คือพยานที่ให้การกับพนักงานสอบสวนแต่ไม่ได้เข้ามาพิจารณาในศาลครั้งนี้ด้วย ประเด็นดังกล่าวนี้ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ดังนั้นจึงฝากไปยังบทบาทกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่พนักงานท้องที่ก็มีส่วนสำคัญ ฝ่ายปกครอง ที่ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพต้องโปร่งใส ในทุกขั้นตอนให้ความร่วมตามข้อเท็จจริง มิฉะนั้นจะมีคดีวิสามัญครั้งแล้วครั้งเล่ากับประชาชน และอีกสักวันจะโดนกับลูกหลานของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ได้

ด้านนายคิงสลีย์ แอ๊บบอล คณะกรรมการ นักติศาสตร์ สากล และที่ปรึกษากฎหมายอาวุโส โครงการเอเชีย แปซิฟิค เปิดเผย ติใจในการสอบสวนการตายของนายชัยภูมิเท่านั้น ว่าในการสอบสวน ในคดีอาญา หวังว่าคงจะเป็นไปตามหลักมาตรฐานและสากล ระหว่างประเทศด้วย มีประสิทธิภาพมีความเป็นกลางและอิสระในการสอบสวน มีการเรียกพยานหลักฐานทั้งหมดมาพิจารณาในคดีอาญา รวมทั้งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV เพื่อนำหลักฐานมาประกอบในพิจารณาคดีต่อไป