Temple House Lamphun ร่วมกับ นายภัทรกร สิงห์ทอง นำเสนอนิทรรศการภาพเขียนเรื่องราวการทำความเข้าใจ และการอยู่อย่างมีความสุข กับปัจจุบันที่ไม่สมูรณ์แบบ เขาเปลี่ยนข้อจำกัดของสี ใช้อุปกรณ์เท่าที่หาได้รอบตัว สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ธรรมชาติ ความจริง ความงามของเมืองและผู้คน เป็นดังแสงสีที่สว่าง ท่ามกลางเมฆหมอกของอุปสรรค และความขาด แคลน
พื้นเพของ “ภัทรกร” เป็นคนอุบลราชธานี หลังจากจบการศึกษาด้านศิลปะ จากวิทยาลัยอาชีวะอุบล ราชธานี เขาตัดสินใจออกเดินทางค้นหาแนวทางใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเอง จากอีสานเขามุ่งไปฝึกฝนวิชา กับครูอาจารย์ผู้บุกเบิกงานศิลปะร่วมสมัย เข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะสมัยใหม่ที่ก้าวหน้าที่สุดของยุคนั้น คือที่ คณะวิจิตรศิลป์ มช. เขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาไม่กี่คน ที่มีงานแสดงศิลปะตั้งแต่ยังไม่จบการศึกษา การทุ่มเทต่อการศึกษา งานเขียนภาพ นำพามาซึ่งความสามารถพิเศษในการสร้างภาพลายเส้น Drawing ที่นำไปสู่ความสำเร็จของภาพสมบูรณ์แบบ ที่แยกไม่ออกระหว่างลายเส้นหรือภาพจริง จนภาพเขียนเหล่านั้นเริ่มเป็นที่หมายตาของแกลอรี่ และนักสะสมศิลปะคนสำคัญหลายๆ คน การแสดงภาพครั้งสำคัญของภัทรกร เกิดขึ้น ในช่วงปี 2554 ที่นำมาซึ่งความสำเร็จของศิลปินหน้าใหม่ ภาพเขียนทุกภาพถูกจอง ผลงานทุกแบบที่มีลายเซ็นต์ของศิลปินถูกขาย และศิลปินคนใหม่ได้งานเขียนภาพพิเศษตามมามากมาย แต่ความสำเร็จกลับนำมาซึ่งคำถามและความขัดแย้งในใจของเขา ว่าอะไรคือความพอดีของชีวิตทางโลก และความสงบในจิตใจ ความหมายและสาระความสำเร็จในฐานะของศิลปินและความสุขของชีวิตอยู่ตรงไหน ความพอใจและความไม่พอในการความสำเร็จคืออะไร เขาเพียรหาคำตอบเรื่องนั้น และนั่นเป็นสาเหตุที่เขาหยุดแสดงผลงานไป 7 ปี
จังหวะชีวิตในช่วงนั้น ดึงดูดภัทรกร ย้ายมาพำนักใน จ.ลำพูน ที่ครั้งหนึ่งเขามาเมืองนี้ เพื่อทำงานช่วยเพื่อนศิลปินรุ่นพี่ จากนั้นเขาตามคนรักที่เป็นคนเมืองลำพูน และเลือกที่ปักหลักทำงานที่เมืองนี้ เมืองที่จังหวะการก้าวไปของคนและเมืองเป็นจังหวะเดียวกันชีวิตของเขา แม้ว่าเมืองจะมีทรัพยากรทางวัตถุสำหรับการสร้างสรรค์งานศิลปะที่จำกัด แต่สำหรับภัทรกร เมืองกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยทรัพยากรทางความคิด ที่นี่เขาพบความสุขจากความสมบูรณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ เขายอมรับข้อจำกัดของสีและเครื่องมือ สร้างสรรค์ผลงานจากสิ่งที่มี จนในที่สุดสร้างแนวทางใหม่ให้กับงานศิลปะของเขา
“ช่วง 10 ปีแรก ผมวาดภาพจาการเรียนรู้แสงและเงา กับความอารมณ์ที่อยู่ในภาพ แต่ 10 ปีต่อจากนั้น ผมเรียนรู้ที่จะวาดภาพจากสภาวะจิตใจ การถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และการตั้งคำถามกับชีวิต จนถึง 2 ปีก่อนถึงปัจจุบัน ผมวาดภาพเพื่อทำความเข้าใจโลก อยู่ร่วมกับโลกและชีวิตอย่างมีความสุข อยู่กับปัจจุบันด้วยความเข้าใจ”
“ผมยินดีที่ผมจัดแสดงภาพครั้งนี้ที่ลำพูน อย่างน้อยผมได้ตอบแทนลำพูน คนลำพูน ที่ให้โอกาสผมได้เรียนรู้ ได้ตอบแทนสิ่งที่เราเรียนรู้จากครูบาอาจารย์ ตอบแทนให้กับพื้นที่ ผมขอบคุณที่เราทุกคนมาร่วมกันใช้ศิลปะกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของเมือง”
ขอเชิญชมนิทรรศการ สี แสง ความสว่างและความจริง Colours Amidst the Gloom ในวันที่ 15 มิถุนายน 2561 ถึง 15 สิงหาคม 2561 เวลา 0700 – 1900 ( ปิดวันจันทร์ ) ณ Temple House Lamphun ( เปิดงานวันที่ 15 มิถุนายน 2561 เวลา 18.00 น.)
ร่วมแสดงความคิดเห็น