กลุ่มเครือข่ายฯ ดอยสุเทพ ลุยขึ้นศาลอุทธรณ์ภาค 5 ยื่นหนังสือจี้ยกเลิกสัญญาก่อสร้าง“บ้านป่าแหว่ง”

ช่วงเช้าวันที่ 19 มิ.ย.61 ที่สำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และนายโชติพัฒน์ ศรีภักดีพงศ์เดช เครือข่ายวิศวกรรักษ์ป่า นำหนังสือเข้ายื่นถึงสำนักงานศาลยุติธรรม ผ่านประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อทวงถามสัญญาตามข้อตกลงที่มีร่วมกัน ในการที่จะแก้ไขปัญหากรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชิงดอยสุเทพ
หลังจากที่วานนี้(18 มิ.ย.61) ครบกำหนดที่จะต้องส่งมอบงานงวดสุดท้ายของผู้รับเหมาแล้ว ซึ่งตามข้อตกลงที่มีร่วมกันกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 เม.ย.61 นั้น มีเงื่อนไขให้เครือข่ายรอถึงวันที่ 18 มิ.ย.61 เพื่อส่งมอบพื้นที่คืนให้ฟื้นฟูสภาพ และจะไม่มีการให้ผู้ใดเข้าไปใช้ประโยชน์หรือพักอาศัยในพื้นที่ดังกล่าว แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมา มีการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวทั้งนี้นายธีระศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นตัวแทนเครือข่ายยื่นหนังสือถึง สำนักงานศาลยุติธรรมผ่านทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อทวงสัญญากรณีการแก้ไขปัญหา โครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่ทางศาลบอกว่าขอมอบให้รัฐบาล เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจแก้ไขปัญหา ซึ่งจากการที่ภาคประชาชนเจรจาตกลงร่วมกับ ตัวแทนรัฐบาลมีสัญญาร่วมกันและมีเงื่อนไขว่า ภาคประชาชนจะให้รอจนถึงวันที่ 18 มิ.ย.61 ที่มีการส่งมามอบงานงวดสุดท้าย เพื่อทำการส่งมอบพื้นที่คืน ให้ดำเนินการฟื้นฟู และจะไม่มีผู้พักอาศัย ซึ่งเวลานี้ครบกำหนดแล้วจึงมาทวงสัญญา 2 ข้อดังกล่าว
โดยเรียกร้องให้ทางสำนักงานศาลยุติธรรมชี้แจง ให้ประชาชนรับทราบว่าส รุปแล้วจะต่อสัญญาให้กับผู้ รับเหมาหรือไม่ เพราะบ้านพักชุด 45 หลังนั้น ควรจะเสร็จตั้งแต่เดือน ส.ค.2558 แต่มีการต่อสัญญาเพิ่มมา 3 ปี และครบเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงอยากจะเรียกร้องให้ทางสำนักงานศาลยุติธรรม ยุติสัญ ญาซึ่งสามารถทำได้ตามกฎหมาย ขณะเดียวกันขอให้ย้ายผู้พักอาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลังในพื้นที่พิ พาทออกไปตามข้อตกลง ซึ่งไม่ได้บังคับว่าจะต้องออกวันนี้พรุ่งนี้ แต่อยากให้มีความชัดเจนและดำเนินการในเวลาที่เหมาะสม โดยหวังว่าทางสำนักงานศาลยุติธรรม จะมีการแถลงชี้แจงให้เกิดความชัดเจนเพื่อยุติความขัดแย้ง และไม่ทำให้เกิดปัญหายืดเยื้อกว่านี้
ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ทางสำนักงานศาลยุติธรรม ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ ว่าจะมีการต่อสัญญาหรือไม่ ตามที่ผู้รับเหมาได้ขอต่อสัญญาไปจนถึงเดือน ส.ค. พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่ผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จตามกำหนด สัญญาจะโดนค่าปรับวันละ 350,000 บาท จึงมีข้อสงสัยว่าหากมีการต่อสัญญา จะมีการเก็บค่าปรับที่คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 14 ล้านบาทหรือไม่ หรือว่าจะยกเว้นให้ ทั้งนี้หากทางศาลยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการต่อ ก็อยากให้มีการแถลงออกมาให้ชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า วานนี้(18 มิ.ย.61)มีการพบปะหารือกับทาง ผวจ.เชียงใหม่ และทางฝ่ายทหาร เบื้องต้นได้รับแจ้งจาก ผวจ.ว่าในการประชุมประธานคณะกรรมการชุดใหญ่ที่ กทม. มีการแจ้งเรื่องที่ทางภาคประชาชน ต้องการจะลงพื้นที่โครงการเพื่อสำรวจและรวบรวมข้อมูล ทางคณะกรรมการชุดใหญ่ ได้มอบหมายให้เลขารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเชียงใหม่ในช่วงสัปดาห์หน้า พร้อมนำกรรมการที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนเข้าพื้นที่โครงการ ส่วนเรื่องการขอดูสัญญาและแบบแปลนโครงการ จนถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับจากศาล
นายธีระศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหานี้ ยังมีความล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นพอสมควร เพราะรู้สึกว่าไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรจากทางฝ่ายศาล แต่ภาคประชาชนยังให้เวลาเพราะถือว่า ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว จึงอยากให้โอกาสและเวลาในการทำงาน ซึ่งตามกำหนดจะสรุปข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาให้รัฐบาลตัดสินใจในวันที่ 6 ก.ค.61 ขณะที่การระดมมวลชนนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 มิ.ย.61 นั้น ดูแนวโน้มแล้วคาดว่าจะต้องมีการจัดขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อเรียกร้องทวงสัญญาการแก้ไขปัญ หานี้ ซึ่งอยากให้ฝ่ายศาลออกมาแถลงให้ชัดเจน ว่าจะเอายังไงและสรุปแล้วให้จะให้รัฐบาลพิจารณาตัด สินใจแก้ไขปัญหาจริงหรือไม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น