ออกกำลังกาย ระวังโรคประจำตัว

หลายคนต้องมาจบชีวิตขณะที่กำลังเล่นกีฬา ส่วนมากก็มาจากโรคหัวใจ ซึ่งบางคนก็ไม่ทราบว่าตัวเองเป็น ทางการแพทย์จึงแนะนำให้ตรวจสุขภาพเป็นประจำและผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจทางแพทย์ก็แนะนำให้ออกกำลังกายภายใต้คำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัดและการออกกำลังกายในช่วงแรกๆควรออกกำลังกายอย่างพอเหมาะค่อยเป็นค่อยไป และหยุดพักเมื่อเริ่มเหนื่อยหรือแน่นหน้าอก หลังจากที่เริ่มเคยชินแล้วก็ให้เพิ่มระยะเวลาการออกกำลังกาย จนสามารถทำได้ต่อเนื่องนานประมาณ 15 นาทีขึ้นไปและควรทำเป็นประจำทุกๆวัน ที่สำคัญควรมีการอบอุนของร่างกาย ก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกครั้ง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ใช้กำลังมากและมีการแข่งขัน เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอลหรือยกน้ำหนัก เพราะจะไปเพิ่มภาระต่อระบบหัวใจและปอดมาก ซึ่งมันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันหรือหัวใจวายเฉียบพลัน อาจทำให้เสียชีวิตได้ หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง การออำกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการจากโรคความดันโลหิตสูงดีขึ้นได้มาก การออกกำลังแบบเคลื่อนที่จะทำให้ร่างกายได้ใช้ออกซิเจน ช่วยเพิ่มความสามารถการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น และควรออกกำลังกายชนิดแอโรบิค เช่น ปั่นจักรยาน เดินเร็วหรือว่ายน้ำ ฯทำต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ20 นาที สัปดาห์ละ3 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอนอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอินซูลิน อย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะอินซูลินจะถูกดูดซึมสู่กระแสโลหิตเร็วเกินไปและอย่าออกกำลังในช่วงที่อินซูลินออกฤทธิ์สูงสุด การออกกำลังกายของผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ที่เหมาะสมคือ การเดิน การแกว่งแขน รำมวยจีน วิ่งเหยาะๆเดินเร็วหรือขี่จักรยานช้าๆว่ายน้ำช้าๆ และส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด ต้องควบคุมอาการหอบให้ได้ก่อน ก่อนที่จะออกกำลังกายและควรพกยาพ่นขยายหลอดลมติดตัวตลอดเวลาและควรพ่นก่อนออกำลังกาย 15 นาที ควรออกกำลังกายในระยะเวลาที่เหมาะสมโดยประมาณ15-30 นาที และเมื่อมีอาการหอบให้หยุดทันที นั่งพักและพ่นยาขยายหลอดลม ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ทันที ผู้ที่มีโรคประจำตัว จึงจำเป็นต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย แต่ลักษณะของการใช้แรง ระยะเวลาและวิธีการออกกำลังกายนั้นแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมกับโรคที่ประจำตัวและส่วนมากแพทย์ที่ทำการรักษาจะแนะนำในการออกกำลังกายที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยเองและหากมีความผิดปกติขณะออกกำลังกายควรหยุดทำกิจกรรมดังกล่าวและรีบไปพบแพทย์ทันทีครับ

ร่วมแสดงความคิดเห็น