วอนศิษย์แม่โจ้-ชุมชนรายรอบ สานพลังพัฒนาภูมิทัศน์ชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านและชุมชนพักอาศัยย่านหลังม.แม่โจ้ เชียงใหม่ โดยเฉพาะริมฝังคลองส่งน้ำชลประทานแม่แฝก-แม่งัดฝั่งต.ออก วิงวอนหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่โดยเฉพาะ ทางหลวงชนบท,ชลประทาน ตลอดจนบรรดาศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันของม.แม่โจ้ ช่วยกันพัฒนาพื้นที่ด้านหลังสถาบัน เนื่องจากมีวัชพืชปกคลุม 2 ฝั่งถนน อาจเป็นจุดเสี่ยงในการสัญจรได้ทั้งนี้จากการสอบถามผู้พักอาศัยย่านดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น สวนเพาะกล้าพันธุ์ต้นไม้ซึ่งบางส่วนมีปล่อยทิ้งร้าง บางส่วนมีผู้ดูแลสวน รวมถึงมีหอพักเปิดบริการหลายแห่ง ยอมรับว่า ยามค่ำคืนจะน่ากลัวมาก เพราะไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ แม้จะมีจุดตรวจบริเวณแยกสวนนงนุช-บ.เกษตรใหม่ และชรบ.ตระเวณตรวจพื้นที่ก็ยังพบปัญหาวัยรุ่น แรงงานต่างด้าว มั่วสุมตามรายทางในบางจุด มีเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง
ศิษย์เก่า ม.แม่โจ้ รายหนึ่ง ซึ่งเปิดสวนเพาะกล้าไม้ กล่าวว่าม.แม่โจ้ เป็นมหาวิทยาลัยซึ่งมีพื้นที่มากสุดในไทย หากรวมวิทยาเขตต่างๆด้วย ก็น่าจะประมาณ12,879 ไร่ เฉพาะวิทยาเขตที่ชุมพร ก็มีกว่า 2 พันไร่แล้ว ซึ่งในช่วงเปิดเทอมส่วนใหญ่ โดยวันนี้ก็เปิดเทอมวันแรก ก่อนนั้น รุ่นพี่ รุ่นน้องจะร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่ รายรอบม.แม่โจ้ ร่วมกับชุมชน ในอดีตปัญหา ข้อร้องเรียน 2 ฝั่งคลองมีต้นไม้ วัชพืชขึ้นสูง เป็นจุดเสี่ยงแบบนี้ไม่มีให้เห็น ก็ได้แต่หวังว่า ปีนี้จะมีอะไรแปลกใหม่เกิดขึ้นกับน้องๆพี่ๆม.แม่โจ้ในปัจจุบัน ให้เป็นที่ชื่นชมของชุมชน เช่นที่รุ่นพี่ๆเคยฝากผลงานไว้
อย่างไรก็ตาม จากการตระเวณตรวจสอบพื้นที่ตามที่ ศิษย์เก่าแม่โจ้ หลายท่านแนะนำ พบว่า ตลอด 2 ฝั่งคลองชลประทาน มีวัชพืชปกคลุม บางช่วงมีหอพัก บ้านเช่า และ มีที่พักอาศัยท้ิงช่วงห่างเป็นระยะๆ อาจเป็นอีกจุดเสี่ยงในการเดินทางยามค่ำคืน เนื่องจากไฟส่องสว่างตามรายทางไม่เพียงพอ
นอกจากนั้น ปริมาณน้ำในคลอง ส่งน้ำแห้งขอด มีการลักลอบ ต่อท่อสูบน้ำ เข้าสวน ที่พักอาศัยเป็นระยะๆ และในส่วนคณะสาขาวิชา ใกล้ ปากทางเข้าวัดวิเวกฯ แค่สภาพ ทุ่งหญ้า เกือบจะปกคลุมสนามบาสเกตบอลแล้ว มิหนำซ้ำถนนบางจุดเป็นหลุมบ่อ มีการก่อสร้างขยายเขตบริการประปา การใช้เส้นทางต้องระมัดระวัง เป็นย่านพักอาศัย หอพักด้านหลังม.แม่โจ้ที่หนาแน่นอีกพื้นที่

ร่วมแสดงความคิดเห็น