ร้อยใจปลูกต้นรวงผึ้ง ไม้ประจำรัชกาลที่ 10

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้หน่วยงานราชการ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนชุมชน หมู่บ้านต่างๆ เรี่มดำเนินโครงการรณรงค์ส่งเสริมการปลูกต้นรวงผึ้งหรือสายน้ำผึ้ง หรือต้นน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นไม้หอมประจำถิ่นภาคเหนือของไทย เป็นพันธุ์ไม้เดียวกับตะขบฝรั่ง และปอกระเจางาน ปชส.อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่าต้นรวงผึ้งจะมีดอกสีเหลืองเข้มบานสะพรั่งช่วงกค.-สค. ผลิดอกได้นาน 7-10วัน เมื่อบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูงดงามอร่ามตา ส่งกลิ่นหอมอบอวลชื่นใจทั้งวัน มีความสำคัญคือเป็นพรรณไม้ประจำพระองค์ในรัชกาลที่ 10 เพราะดอกรวงผึ้งมีสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพและผลิดอกช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาพอดี อีกทั้งเมื่อร.10เสด็จฯประกอบพระราชกรณียกิจตามสถานที่ต่างๆ จะทรงปลูกต้นรวงผึ้งพระราชทานไว้เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราษฎร ณ สถานที่นั้นๆ ตลอดด้านสนง.อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 เชียงใหม่ อธิบายสภาพนิเวศน์วิทยาต้นรวงผึ้งว่าเป็นไม้กลางแจ้ง ชอบขึ้นในที่แล้ง ไม่มีน้ำท่วมขังจึงจะมีดอกสีเหลืองดกเต็มต้น ทนแล้งได้ดี ไม่ต้องดูแลมาก ใบไม่ค่อยร่วง มีระบบรากดีมาก ไม่มีการหักโค่นของต้นขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นกิ่งที่ได้จากการตอน จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง วิธีขยายพันธุ์ต้นรวงผึ้งที่นิยมมากที่สุดคือ การตอนกิ่ง และอาจปักชำ หรือเพาะเมล็ดก็ได้อย่างไรก็ตามจากความนิยม และสนใจคุณลักษณะ คุณสมบัติของต้นรวงผึ้ง ทำให้ กล้าพันธุ์เป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน และพบว่า มีการประกาศขายผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ รวมถึงนำไปจำหน่ายตามแหล่งค้ากล้าพันธุ์ต้นไม้ เฉลี่ยราคาต้นขนาด 20-60 ซม. 300-600 บาท ถ้าหากเป็นต้นขนาดเล็กไม่เกิน 10 ซม. ราคาประมาณ 30-100 บาท เพาะขายแทบไม่ทันความต้องการ