เปิดศึก”ขวาน” จามหัวรักษาการเจ้าอาวาสเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากเรื่อง แต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส ตร.เร่งสอบปากคำ

ขวานจามหัวเลือดอาบ พระสำนักสงฆ์ อ.แม่ริม เชียงใหม่ เปิดศึกขวานจามหัวรักษาการเจ้าอาวาสเจ็บ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากเรื่อง แต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส ตร.เร่งสอบปากคำ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 61 ศูนย์วิทยุตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากแม่ชี แดง นามสมมุติ ว่าขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกรณีพระสงฆ์ทะเลาะใช้ขวานจามหัวกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในสำนักสงฆ์ห้วยผาปู หมู่ 3 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากได้รับแจ้ง จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่ริม เดินทางไปตรวจสอบเพื่อระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบพระสงฆ์จำนวน 2 รูป ได้ทะเลาะกัน โดยมีพระเอ นามสมมุติ อายุ 51 ปี รักษาการเจ้าอา  วาส สำนักสงฆ์ห้วยผาปู ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะ นอกจากนี้ ยังมีแม่ชีรูปหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณมือ ส่วนผู้ที่ก่อเหตุ ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นพระลูกวัดสำนักสงฆ์ดังกล่าว ทราบชื่อต่อมา คือ พระบี นามสมมุติ อายุ 58 ปี ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากการสอบสวนถาม แม่ชีแดง นามสสมุติ ให้การว่า พระ เอ อายุ 51 ปี รักษาการเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ห้วยผาปู เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าคณะอำเภอได้ไม่นาน ให้ไปรักษาการที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้มี พระ บี อายุ 58 ปี พำนักอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 61 ระหว่างที่อยู่ในวัดก็จะมีพระบี มักจะเข้ามาหาเรื่องกับรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งชวนทะเลาะหลายเรื่องจนกระทั่งเมื่อเช้า ทั้ง 2 รูป ก็ไปบิณฑบาตร ระหว่างเดินสวนกันก็มีการด่าทอกัน โดยรักษาการเจ้าอาวาสนั้นเดินหนีไม่ทะเลาะด้วยเพราะอับอายชาวบ้านที่มารอใส่บาตร จนกระทั่งต่อมา ระหว่างที่ พระเอ กำลังฉันท์อาหารเช้า จู่ๆ พระบี เดินมาหาเรื่องในมือถือขวาน ขณะนั้นทางแม่ชีเห็นท่าไม่ดี ก็เข้าไปห้ามปราม เลยถูกพระบี ฟันโดนที่มือบาดเจ็บ ขณะนั้นพระเอ เห็นเข้าก็เข้าไปห้ามปรามจึงโดนฟันที่หัว 1 ครั้ง จนหัวแตกเลือดอาบและเกิดชุลมุนกัน จนชาวบ้านที่มาในสำนัก สงฆ์เห็นเข้าจึงมาห้ามปราม และแยกย้ายกัน ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่าบาดหมางกันเรื่องอะไร เบื้องต้นสันนิษฐานว่า คงจะเคืองเรื่องการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสที่พระเอ นั้นถูกแต่งตั้ง ให้รักษาการในตำ แหน่งรักษาการเจ้าอาวาส สร้างความไม่พอใจให้กับคนเก่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบปากคำเพื่อจะสรุปข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น