กลุ่มจีน-เกาหลี ขยายฐานธุรกิจค้าปลีกส่ง-เพาะพืชที่เชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ.) รายงานว่า การยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนช่วงไตรมาสแรกปี 2561 (มกราคม-มีนาคม ) มี 333 โครงการ เงินลงทุนรวม 203,630 ล้านบาท เป็นโครง การใหม่ 136 โครงการมูลค่าเงินลงทุน 10,917 ล้านบาท โครงการขยาย มี 79 โครงการ มูลค่า 13,990 ล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินลงทุนจากต่างประเทศ ที่ขอรับการส่งเสริมนั้น ญี่ปุ่นยื่นขอส่งเสริมสูงที่สุด มี 65 โครงการ มูลค่า 11,790 ล้านบาท ตามด้วยจีน มี 65 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 2,863 ล้านบาทสำหรับโครงการที่นักลงทุนต่างชาติ ยื่นขอรับการส่งเสริม ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง 135 โครงการ มูลค่ารวม14,121 ล้านบาท ภาคเหนือมีเพียง 4 โครงการมูลค่ารวม 502 ล้านบาท

ทั้งนี้มีความน่าสนใจตรงประเด็นที่ นายวัชระ ตันตรานนท์ กงสุลกิตติมศักดิ์ สาธารณรัฐเกาหลี ประจำเชียงใหม่ ระบุผ่านสื่อฯว่า ล่าสุดมีกลุ่มบริษัท เดอะ คีบัน คีบัน ซึ่งเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ของเกาหลี มีฐานธุรกิจเคมี และกำลังขยายไลน์สู่ธุรกิจด้านการเกษตร งานวิจัยและพัฒนา สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในเชียงใหม่ด้านการเกษตร ในกิจการเพาะพันธุ์พืชเมืองหนาว มูลค่าการลงทุนราว 169 ล้านบาท โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ. เรียบร้อยแล้วกลุ่มนี้จะตั้งฐานธุรกิจในพื้นที่ อ.สันป่าตอง บนพื้นที่ราวๆ 60 ไร่ เป็นการลงทุนด้านเพาะพันธุ์พืช เนื่องจากเล็งเห็นความพร้อมของเชียงใหม่ ที่จะเป็นศูนย์กลางการบินและในอนาคต จะมีสายการบินตรงจากเกาหลี-เชียงใหม่มากขึ้น อีกทั้งระยะทางการตั้งโรงงานจากเมืองเชียงใหม่ ไปยังสันป่าตอง ไม่เกิน 30 กม.เท่านั้น มีความสะดวกสบายด้านการขนส่งผลผลิต

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ผลิตค้าพืชผักผลผลิตส่งออก เชียงใหม่ ระบุว่า การเข้ามาของกลุ่มเกาหลี การสร้างโรงงานอาจจะช่วยสร้างงาน แต่การส่งออกแล้ว จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของภาคการผลิตพืชผักคุณภาพส่งเกาหลี ซึ่งศักยภาพ ความรู้และเป็นกลุ่มทุน ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเคมีเกษตร การเพาะปลูกพืชเมืองหนาว อาจจะแบ่งปันการตลาดส่งออกผลผลิตไทยไปเกาหลี ซึ่งต้องรอประเมินกำลังการผลิตต่อไปนอกจากกลุ่มทุนเกาหลีที่เข้ามาลงทุนในเชียงใหม่แล้ว ยังพบว่า มีกลุ่มทุนจีนจากเมืองกวางโจวและอี้อู ซึ่งทำธุรกิจห้างค้าปลีกและค้าส่งขนาดใหญ่ มีการเจรจาร่วมทุนกับบิสซิเนสปาร์ค ร่วมทุนในสัดส่วน 49 : 51 โดยรูปแบบโครง การ ห้างฯค้าปลีก-ค้าส่งสูง 12 ชั้น พื้นที่ 130,000 ตร.ม เน้นขายส่ง บนพื้นที่ราว 8 ไร่ ติด ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ เยื้องๆสถานีขนส่งอาเขตที่ 2 มูลค่าลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท

โดยนายวัชระ อธิบายว่า สินค้าที่จะนำมาจำหน่าย จะเป็นสินค้าจากจีนทุกกลุ่ม ประเภทสินค้าทั้งอุปโภค-บริโภค และเปิดพื้นที่ให้เช่าสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งกลุ่มทุนจีนที่ร่วมทุน จะนำสินค้าจากเชียงใหม่กลับไปขายในจีนด้วย คาดว่าจะเปิดบริการราวๆ ปลายปีนี้