เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เบื่อสำนักงานศาลยุติธรรมไร้ความชัดเจนกรณี “บ้านป่าแหว่ง” ยันต้องรื้อเท่านั้น

วันที่ 9 ก.ค.61 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศต่อต้านคัดค้านอย่างหนักและเรียกร้องให้มีการรื้อถอนบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ตามข้อตกลงที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ทำการเจรจาหารือกันจนได้ข้อสรุปและมีข้อตกลงเป็นสัญญาร่วมกัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.61 เพื่อฟื้นฟูสภาพป่านั้น

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ กรณีก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ(อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่) ครั้งที่ 2/2561 และการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาการฟื้นฟูให้กลับเป็นป่าสมบูรณ์ กรณีก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ(อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่) ครั้งที่ 2/2561 โดยตามรายงานข่าวระบุว่าทางตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพที่เป็นอนุกรรมการ ได้มีการจัดทำข้อสรุปแนวทางการจัดการกับสิ่งปลูกสร้างและการฟื้นฟูสภาพป่า ซึ่งมีแผนงานและรายละเอียดทั้งหมดในการดำเนินการ นำเสนอต่อที่ประชุม เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการอำนวยการที่มีนายสุวพันธุ์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาตัดสินใจต่อไป
ขณะที่นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า การประชุมได้มีการทวงถามเน้นย้ำให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงที่จะส่งคืนพื้นที่โครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ให้กับธนารักษ์ ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ทางสำนักงานศาลยุติธรรม ไม่เคยมีความชัดเจนเลย เพราะตราบใดที่ยังไม่มีการส่งคืนพื้นที่ย่อมไม่สามารถดำเนินการฟื้นฟูได้สำหรับประเด็นว่าจะรื้อหรือไม่นั้น เป็นที่ตกลงร่วมกันว่าต้องรื้อบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง โดยที่ทางเครือข่ายได้มีการจัดทำข้อสรุปแนวทางนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการแล้วว่า จะต้องดำเนินการรื้ออย่างไร และวิธีการใด ซึ่งคาดว่าข้อสรุปแนวทางดังกล่าวจะมีการนำเสนอถึงคณะกรรมการอำนวยการที่จะมีการประชุมที่กรุงเทพฯ ภายใน 2 สัปดาห์นี้ และจะให้เวลา 1 เดือน ในการพิจารณาตัดสินใจ ซึ่งจุดยืนของเครือข่ายยืนยันว่าต้องรื้อและจำเป็นต้องรื้อโดยเร็วที่สุดด้วย ไม่เช่นนั้นไม่สามารถฟื้นฟูได้ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ระบุด้วยว่า ปัญหาอุปสรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งในการแก้ไขปัญหากรณีนี้อยู่ที่ทางสำนักงานศาลยุติธรรม ที่ไม่มีความชัดเจนใดๆ เลย ทั้งกรณีผู้รับเหมาที่หมดสัญญาแล้วและไม่ควรต่อสัญญาเพื่อคืนพื้นที่ ซึ่งทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปแน่ หรือการไม่ยอมย้ายผู้พักอาศัยออกจากอาคารชุด 9 หลัง ทั้งที่ตกลงกันว่าจะไม่ให้คนเข้าไปอยู่ แถมยังมีการย้ายเข้าไปเพิ่ม ซึ่งเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจกันในระหว่างการแก้ไขปัญหา จึงอยากเรียกร้องให้มีความชัดเจนเสียที นอกจากนี้นายธีระศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการที่ยังไม่มีการยุติสัญญากับผู้รับเหมาและโครงการยังเดินหน้าก่อสร้างต่อ รู้สึกกังวลใจอย่างยิ่ง เพราะพบว่าฝนที่ตกต่อเนื่องในช่วงฤดูฝนนี้ทำให้พื้นที่ถูกกัดเซาะได้รับความเสียหาย และการก่อสร้างรั้วโครงการที่ทำอยู่อย่างต่อเนื่อง ยังมีการตัดต้นไม้ออกไปอีกเป็นจำนวนมากด้วย จึงน่าเป็นห่วงว่าหากยิ่งปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปสภาพพื้นที่จะยิ่งได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้หากข้อเสนอของเครือข่ายถึงมือคณะกรรมการอำนวยการแล้ว ภายใน 1 เดือน หากยังไม่มีความชัดเจนและไม่ตัดสินใจใดๆ ชาวเชียงใหม่พร้อมที่จะร่วมกันแสดงพลังอีกครั้งว่าไม่ต้องการโครงการนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น