“เบิ๊ดคำสิเว่า!! คนเหนือขี้เหล้าหลวง เชียงใหม่จ่อชิงแชมป์สุราพาเพลิน

ปกติช่วงใกล้เข้าพรรษา หลายๆภาคส่วนทั้งภาคประชาสังคมและรัฐฯจะเร่งรณรงค์กิจกรรม” งดเหล้าเข้าพรรษา” สืบเนื่องจากประเทศไทย กำหนดให้ทุกวันเข้าพรรษาเป็นวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2551 โดยปีนี้นายกรัฐมนตรีมอบแนวทาง”ลด ละ เลิกสุรา พาครอบครัวเป็นสุข” ทั้งนี้ข้อมูลองค์การอนามัยโลก ระบุว่า คนไทยดื่มหนักติดอันดับ 5 ของโลก ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงพยายามเร่งแก้ปัญหานี้ ตามยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ ระยะ 10 ปี (พ.ศ.2554 -2563) มีการบังคับใช้พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจัง เช่น กำหนดส
ถานที่ห้ามขาย หรือห้ามบริโภคทั้งสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ รอบสถานศึกษา กำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามร้านสะดวกซื้อ เพื่อลดนักดื่มหน้าใหม่ ช่วงอายุ 15-19 ปีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 5 % ต่อปี

ศูนย์วิจัยปัญหาสุราแห่งชาติ รายงานว่าคนไทยกว่า 3 ล้านคนติดเหล้า ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรโลก มากถึง 3.3 ล้านคนต่อปี เฉพาะคนไทยเสียชีวิตจากน้ำเมาทุก 10 นาที ปีละกว่า 5-6 หมื่นคน สุราเป็นสาเหตุของโรคถึง 200 ชนิด โดยเฉพาะโรคมะเร็งตับซึ่งเป็นอันดับ 4 ของสาเหตุการตาย และก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจปีละ 12 แสนล้านบาท
ด้านนพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แถลงสื่อวานนี้ว่าอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ความรุนแรงในครอบครัว การทะเลาะวิวาท ฯลฯ ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูง แม้จะมีพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ มีผลบังคับใช้ ข่าวที่ดังวานนี้คือจ่อยิงกันตายหน้าผับดัง ปีที่ผ่านมา มีคนตาย 2-3 หมื่นคน กว่าครึ่งเกิดจากการดื่ม อยากถามว่าธุรกิจน้ำเมาจะเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียเหล่านี้อย่างไรข้อมูลผลวิจัยสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และหลายๆเครือข่ายงดดื่มสุราพบคนไทยดื่ม 5 วันต่อสัปดาห์ถึง 38.3 % และจากการสำรวจพฤติกรรมการดื่มสุราของคนไทย โดยสนง.สถิติฯช่วงปี 2554-60 พบมีสัดส่วนผู้ดื่มสุราสูงที่สุดในไทยอยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 6จังหวัดคือ พะเยา, น่าน, แพร่ ,เชียงใหม่, เชียงราย ลำปาง ลำพูน โดยสลับกันเป็น”แชมป์ขี้เหล้าหลวง”

ปีที่ผ่านมา พะเยา สามารถควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ตั้งแต่สร้างเครือข่ายทุกระดับ , ควบคุมการผลิตจำหน่ายสุราชุมชน สุราเถื่อน จัดโซนนิ่งกำหนดพื้นที่ปลอดเหล้ามากขึ้นพัฒนาชุมชนให้เกิดเครือข่ายเข้มแข็งคัดเลือกคนต้นแบบ หมู่บ้านต้นแบบ จนปรากฏผลเป็นรูปธรรมจังหวัดพะเยามีงานศพปลอดเหล้าสูงถึง 84%กลายเป็นพะเยาโมเดล ขยายผลไปทั่วประเทศ โดยพะเยาร่วงไปอยู่ที่อันดับ 25 ของประเทศ และแพร่..เมาระเบิดระเบ้อ!!!ก็หล่นไปอันดับ 37 แต่ที่น่าห่วงคือ เชียงใหม่ กำลังชิงแชมป์คนดื่มหนักกับกทม.ปีนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น