กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกและวัตถุอันตราย หลีกเลี่ยงการเดินรถช่วงหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา

กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกและวัตถุอันตราย หลีกเลี่ยงการเดินรถช่วงหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 26 – 31 กรกฎาคม 2561 เพื่อบรรเทาความหนาแน่นการจราจรและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกดำเนินมาตรการรณรงค์และป้องกันอุบัติเหตุในช่วงวันหยุดยาวที่ประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในทุกๆเทศกาล ซึ่งมีผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมากส่งผลให้มีการจราจรหนาแน่นและคับคั่ง ทั้งยังมีความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือสหพันธ์ สมาคม ชมรม และผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก รวม 15 แห่ง หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและวัตถุอันตราย รวมทั้งงดการเดินรถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า)
ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 26 – 31 กรกฎาคม 2561 ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมาก และกำกับดูแลผู้ขับรถให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ.2558 อย่างเคร่งครัด โดยหมั่นตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง กรณีที่รถเกิดขัดข้องหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถในช่องทางเดินรถหรือบริเวณไหล่ทางจะต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบและจัดให้มีเครื่องหมายตามลักษณะและเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด พร้อมดำเนินการแก้ไขและเคลื่อนย้ายรถให้พ้นจากทางเดินรถโดยเร็วที่สุด
สำหรับรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ไว้กับตัวรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ สำหรับผู้ประกอบการขนส่งรายใดที่ละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง จนเป็นเหตุเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีความผิดเปรียบเทียบปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการขนส่งทางบกเข้มข้นทุกมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางตลอดช่วงเทศกาล พร้อมควบคุม ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ด้วยระบบ GPS Tracking ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบก
หากตรวจพบการใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือมีชั่วโมงการทำงานเกินกำหนด ผู้ประกอบการขนส่งต้องแจ้งเตือนหรือติดตามตัวผู้ขับรถทันทีเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ด้านผู้ขับรถต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันหรือการตัดหน้ากระชั้นชิด และผู้ขับรถทุกคนต้องไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ สภาพร่างกายต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมหากพบเห็นรถบรรทุกขนส่งสินค้าหรือรถโดยสารสาธารณะขับขี่อันตราย เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ โดยแจ้งเหตุหรือร้องเรียนได้ผ่านแอพพลิเคชั่น DLT GPS หรือ โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น