บิ๊กน้อย ประกาศ! ความเข้มแข็งอาชีวศึกษา 12 ก.ย.นี้ ชู 3 ธุรกิจมาแรง เชื่อมโยงศูนย์พัฒนากำลังคน

พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวให้นโยบายภายหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการในการต่อยอดการเป็นผู้ประกอบการใน 3 อุตสาหกรรม EEC อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ว่า 3 ธุรกิจมาแรงที่ชาวอาชีวะ ต้องเน้นและตระหนักให้มากว่า ประเทศไทยโดดเด่นเรื่องการท่องเที่ยว ในแถบภูมิภาคอาเซียน เราจึงต้องช่วยกันต่อยอดธุรกิจด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้นและเชื่อมต่อกับด้านการแปรรูปอาหารและการแพทย์ครบวงจรซึ่งจะเน้นไปที่กลุ่มผู้สูงอายุให้ได้ด้วย การเน้นรูปแบบแนวทางในการทำงานของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ควรจะเน้น ผลสัมฤทธิ์ ที่เห็นเป็นรูปธรรม ถึงจะเกิดความยั่งยืนในอนาคตดังนโยบายของรัฐบาลที่ว่า มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน“ผมอยากเห็นงานในกลุ่ม 3 ธุรกิจที่มาแรงในขณะนี้ได้ทำงานสอดประสานและเชื่อมโยงกับศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ที่มี 1 ศูนย์กลาง 6 ศูนย์ภูมิภาคและ 17 ศูนย์จังหวัด เพื่อให้กลุ่ม 3 ธุรกิจที่มาแรง ทำงานได้มาตรฐานมากขึ้น ผมจะนำเสนอความคืบหน้าของศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาต่อครม.ในสัปดาห์หน้า”พลเอก สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า “ถ้าเราจะเพิ่มฝ่ายการทำงานขึ้นภายใต้ศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาขึ้นมาอีกสักฝ่าย ผมขอเสนอให้เพิ่มฝ่ายประสานงานและการรับรู้ขึ้นด้วย ผมกำหนดวันที่ 12 ก.ย.2561 ให้มีการประชุมเพื่อสรุปงานอีกครั้ง วันนั้นชาวอาชีวะจะประกาศความเข้มแข็งให้สังคมได้รู้เกี่ยวกับกิจกรรมโครงการต่างๆ ผมอยากให้ชาวอาชีวะคิดและสร้างสรรค์ โดยใช้แผนการพัฒนายุทธศาสตร์ชาติ 12 ปี เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนงาน ทั้งนี้อย่าลืมเชื่อมโยงกับศูนย์ประสานงานการผลิตฯ ด้วย การจะปรับเปลี่ยน หรือเลิกทำหลักสูตรหรือต้องคิดอะไรที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ควรจะให้ทันปีงบประมาณ 2562 ส่วนแผนงานไหนสามารถทำได้ก่อนให้รีบทำโดยไม่ต้องรอ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น