กรมบัญชีกลาง เริ่มจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ผู้สูงอายุ ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้จ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพ แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 ตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ ได้พิจารณาอนุมัติอัตราการจ่าย และมีระยะเวลาการจ่ายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – กันยายน 2561 โดยผู้มีสิทธิที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินสงเคราะห์ มีดังนี้
1. ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ เดือนละ 100 บาท
2. ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ เดือนละ 50 บาท ทางกรมบัญชีกลาง จะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิทุกวันที่ 15 ของเดือน กรณีตรงกับวันหยุดราชการ จะเลื่อนวันจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุฯ เป็นวันทำการก่อนวันหยุดราชการ
สำหรับงวดแรกจ่ายเงินลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในวันที่ 15 สิงหาคม 2561 โดยผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป จะได้รับเงินตามสิทธิ (50/100 บาท) 2 เดือน (กรกฎาคม – สิงหาคม) และผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป จะได้รับเงินตามสิทธิ (50/100 บาท) 1 เดือน (สิงหาคม)อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า กรมบัญชีกลางได้ประมวลผลข้อมูลการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 3.66 ล้านราย เป็นเงินทั้งสิ้น 673.21 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ฯ ของเดือนกรกฎาคมและเดือนสิงหาคม จากบัญชีกองทุนผู้สูงอายุสำหรับภาษีสรรพสามิตและสุรายาสูบ ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสามารถถอนเงิน ที่โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสดได้ ผ่านตู้ ATM ของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และสาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย กรณีมีเงินคงเหลือของเดือนที่ผ่านมา สามารถสะสมในเดือนถัดไปได้
สำหรับผู้มีสิทธิที่เริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในการถอนเงินสดเป็นครั้งแรก จะต้องใช้รหัส 6 หลัก เพื่อทำรายการถอนเงิน โดยรหัสดังกล่าว คือเลขประจำตัวประชาชน 6 หลักสุดท้ายบนหน้าบัตร ผู้มีสิทธิจะต้องเปลี่ยนรหัส 6 หลักเดิมจากตู้ ATM ของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย หรือสาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทยก่อน จึงจะสามารถถอนเงินสงเคราะห์ เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุฯ จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ โดยเงินขั้นต่ำที่จะถอนจาก ATM ได้ คือ 100 บาท และควรเก็บรักษารหัสไว้อย่างดีเพื่อความปลอดภัยด้วย
ที่มา : Prachachat

ร่วมแสดงความคิดเห็น