ครบรอบ 73 ปี วันสันติภาพไทย ปาฐกถาพิเศษ ณ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ‘ถือเป็นเกียรติยิ่งแก่ข้าพเจ้า’
17 ส.ค. 61
ถือเป็นเกียรติยิ่งแก่ข้าพเจ้าที่ได้รับเชิญจาก ม.ธรรมศาสตร์ในวันนี้ ให้มากล่าวสุนทรพจน์รำลึกถึงคุณูป การของขบวนการเสรีไทยตามคำบอกเล่าของบิดาข้าพเจ้า ผู้ซึ่งเป็นเสรีไทยอีกผู้หนึ่งในสายของประเทศสหราชอาณาจักร ข้าพเจ้าใคร่ขอกล่าวเป็นปฐมบทว่า ด้วยเดชะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยแท้ที่ทำให้ภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามและภายหลังสงคราม คือ ภายหลังการประกาศสันติภาพ ซึ่งตรงกับวันนี้ วันที่ 16 สิงหาคม เมื่อ 73 ปีก่อน ได้คลาดแคล้วผ่านพ้นไปได้อย่างอัศจรรย์ยิ่ง
อย่างไรก็ดี เมื่อเรามองย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น ของสงครามมหาเอเซียบูรพา หรือสงครามแปซิฟิก เราอาจปฏิเสธไม่ได้ในการตัดสินใจวางอาวุธ และยินยอมพร้อมใจให้ฝ่ายอักษะเคลื่อนทัพผ่าน จนถึงขั้นการประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร และรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรประกาศตอบ การได้ดินแดนกลับคืนที่เคยถูกตะวันตกยึดครองไป แต่แล้วภายหลังเมื่อมหาประเทศตะวันตกตัดสินใจทิ้งระเบิดปรมาณูลงบนเกาะญี่ปุ่น ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมดสิ้นในชั่วพริบตา อันนำมาซึ่งความปราชัยของฝ่ายอักษะ
หากประเทศไทย ไม่มีขบวนการเสรีไทย ทั้ง 3 กลุ่ม ผู้กอบกู้ชาติและมีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ ด้วยความเสียสละและกล้าหาญชาญชัย ที่มาร่วมกันทำงานและประสานประโยชน์ เพื่อบูรณภาพของราชอาณาจักรไทย นำโดย ฯพณฯ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คงจะเป็นความยากลำบากอย่างที่สุด ที่เราจะก้าวข้ามวิกฤตการณ์ในช่วงเวลานั้นมาได้…” *ส่วนหนึ่งจากการปาฐกถาพิเศษ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ณ สวนประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์ 16 ส.ค. 61
ร่วมแสดงความคิดเห็น