เช้านี้ฝนหยุด สถานการณ์น้ำที่ประตูระบายน้ำ ท่าวังตาลเชียงใหม่ เริ่มทรงตัว

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 19 ส.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ประตูระบายน้ำ(ปตร.)ท่าวังตาล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สถานการณ์น้ำทรงตัว ระดับน้ำ เมื่อ 06.00 น.ปตร. แม่น้ำปิง ด้านเหนือน้ำระดับ +301.1 (เฝ้าระวัง) ด้านท้ายน้ำ +300.89 (เฝ้าระวัง) จากที่ชลประทานที่ 1 เปิดศูนย์ปฏิบัติการน้ำ(SWOC1) ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ เผยทั้งเขื่อนแม่งัดฯและแม่กวงยังรองรับน้ำได้อีกนับ 100 ล้านลบ.ม. ขณะที่น้ำในลำน้ำปิงให้จับตาช่วง 6 โมงเย็นวันที่ 18 ส.ค.ถึงเช้าวันที่ 19 ส.ค.มีระดับสูงขึ้นแต่ไม่ล้นฝั่ง

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำ(SWOC1) ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมถึงลำน้ำสาขาต่างๆ โดยเฉพาะน้ำในแม่น้ำปิงที่จะไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจและแจ้งเตือนประชาชนหากเกิดสภาวะวิกฤตน้ำล้นตลิ่ง เนื่องจากมีฝนตกหนักบริเวณทิศเหนือของ จ.เชียงใหม่ และอิทธิพลของพายุเบบินคาที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ จนทำให้ประชาชนหวั่นวิตก
น้ำที่เก็บกักอยู่ในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่สามารถจุน้ำได้ถึง 265 ล้านลบ.ม.แต่ปัจจุบันปริมาณน้ำที่กักเก็บอยู่ที่ 117 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งความจุของเขื่อนสามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ 263 ล้าน ลบ.ม.แต่ปัจจุบันมีน้ำอยู่เพียง 31% ของความจุหรือประมาณ 81 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเขื่อนแม่กวงฯยังสามารถรับน้ำได้อีกจำนวนมากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิงและไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมได้นั้น ยังมีปริมาณน้ำที่ทางศูนย์ปฏิบัติการน้ำชลประทานที่ 1 นำมาประมวลผล วิเคราะห์ด้วยคือ น้ำจากแม่น้ำปิง ต้นน้ำจาก อ.เชียงดาว น้ำจากลำน้ำแม่แตงซึ่งมาจากฝายแม่แตง และฝายแม่แฝกกับน้ำจากลำน้ำใน อ.แม่ริม ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 80 ของน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง ขณะที่เขื่อนแม่งัดฯจะไหลลงแม่น้ำปิงเพียงร้อยละ 18 เท่านั้น
นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้น้ำในลำน้ำปิงที่ อ.เชียงดาว อัตราการไหลอยู่ที่ 249 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่น้ำจากฝายแม่แตงและแม่แฝกอัตราการไหล 48.7 ลบ.ม.ต่อวินาที และน้ำในลำน้ำแม่ริมอัตราไหล 27.5 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งแต่เดิมจะใช้อัตราการไหลของน้ำที่จุดวัดน้ำ P.67 ถ้าหากอัตราการไหลของน้ำอยู่ที่ 450 ลบ.ม.ต่อวินาที ภายใน 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำก้อนนั้นจะไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ และจะทำให้ทะลักไปตามจุดที่ลุ่มต่ำหรือจุดฟันหรอเข้าสู่พื้นที่อื่นได้ ซึ่งทางศูนย์ฯจะได้แจ้งเตือนประชาชนให้เก็บสิ่งของเครื่องใช้ไว้ที่สูงและให้จังหวัดแจ้งอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย แต่ขณะนี้จากการประมวลผลปริมาณน้ำที่ไหลผ่าน P.67 ยังอยู่ที่ 314.6 ลบ.ม.ต่อวินาที

“ที่น่ากังวลคือปริมาณน้ำที่มาจาก อ.แม่ริม มีจำนวนมากถึง 27.5 ลบ.ม.ต่อวินาทีและอยู่ต่ำกว่าจุด P.67 แม้ว่าปริมาณน้ำจากจุดวัดน้ำจุดนี้ จะยังไม่ถึงขั้นที่จะวิกฤต แต่เมื่อระยะเวลาการไหลของน้ำทั้ง 3 จุดมาร่วมกัน อาจจะเป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ ด้วยเหตุนี้ทางศูนย์ฯจึงติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์กันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 6 โมงเย็นวันนี้(18 ส.ค.) อย่างไรก็ตามได้มีการเปิดประตูระบายน้ำระบายน้ำออกไปกว่า 60 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อรองรับมวลน้ำก้อนใหม่แล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนหวั่นวิตกจนเกินไป”ผอ.สำนักชลประทานที่ 1 กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น