รองเลขาธิการ ป.ป.ส. การประชุมสรุปผลการดำเนินงานด้านบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดฝิ่น

รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดการประชุมสรุปผลการดำเนินงานด้านบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดฝิ่น ภายใต้โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน พื้นที่ภาคเหนือตอนบน

วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2561นายชลัยสิน โพธิเจริญ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดการประชุมสรุปผลการดำเนินงานด้านบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดฝิ่น ภายใต้โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน พื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยมีนายพรพัฒน์ สุวรรณภูมิ ผอ.ปปส.ภาค 5 ให้เกียรติร่วมในพิธีเปิดการประชุม และนายแพทย์สรกิจ ภาคีชีพ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 1เชียงใหม่ ให้เกียรติบรรยายเรื่องกองทุนท้องถิ่น กับการช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดรักษาฝิ่น ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 30คน ประกอบด้วย ผู้แทน ศอ.ปส.จ./ศป.ปส.อ. (นายอำเภอมา 1ท่านได้แก่นายอำเภอแม่แตง),โรงพยาบาลธัญญารักษ์ เชียงใหม่,ผู้แทนโรงพยาบาลธัญญารักษ์ แม่ฮ่องสอน,ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดและอำเภอ,ผู้แทนโรงพยาบาลอำเภอ,ผู้แทน สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่,ผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1เชียงใหม่,ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,โครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน และผู้แทน สยศ.และ สพป. ป.ป.ส. เข้าร่วม

มีรายละเอียดสำคัญดังนี้
1.ทบทวนข้อมูลผู้ผ่านการบำบัดรักษาในพื้นที่ 6อำเภอในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงฯพบว่ามีผู้ผ่านการบำบัดฝิ่นในรูปแบบ Harm Reduction รวม 1,710ราย ได้รับการช่วยเหลือด้านอาชีพ จำนวน 528 รายหรือร้อยละ 30
2.อภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การช่วยเหลือส่งเสริมอาชีพ ผู้ผ่านการบำบัดรักษาฝิ่นโดย พมจ.เชียงใหม่ / สป.สช.เขต 1เชียงใหม่ และโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน
3.ผู้แทนคณะทำงานด้านการบำบัดรักษาฝิ่น ทั้ง 5อำเภอ ร่วมกันกำหนดแนวทางปี2562ตามแผนแม่บทระยะที่ 3/ วิเคราะห์การขับเคลื่อนการช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดฯภายหลังจากสิ้นสุดแผนแม่บทระยะที่ 2ปี 2561
4.แนวทางในการดำเนินต่อไป – นำเสนอผลการประชุมในที่ประชุมคณะกรรมการระดับจังหวัดในวันที่ 6 ก.ย. 2561ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ วันที่ 7ก.ย.2561 ณ จังหวัดเชียงใหม่
-เน้นการรวมตัวของเครือข่ายระดับท้องถิ่น เพื่อพัฒนาโครงการดูแลผู้ผ่านการบำบัด ในการติดตามและส่งเสริมอาชีพ และขอรับการสนับสนุนงบประมาณทำกิจกรรมต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ โดยการขอรับการสนับสนุนผ่าน ปปส.ภาค 5/สป.สช./อปท.และพมจ. เป็นต้น