เครือข่ายป่าแหว่งชุมนุมใหญ่ประตูท่าแพให้รัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหา บ้านพักตุลาการตามข้อเรียกร้อง

เครือข่ายป่าแหว่งชุมนุมใหญ่ประตูท่าแพให้รัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหา บ้านพักตุลาการตามข้อเรียกร้องทั้งที่เรียกร้องมาเป็นเดือนที่ 5 มีอะไรที่ชัดเจน พร้อมขู่ หากไม่ได้รับคำตอบจะชุมนุมเยือกเยื้องแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 26 สิงหาคม 2561 ที่บริเวณประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เครือข่ายทวงคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพ ( บ้านป่าแหว่ง )จำนวน 46 องค์กร นำโดย ) นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ประธานชมรมร่มบินผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และพันธมิตรเครือข่ายเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เช่น นายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนา นางพิมพ์สุชา สมมิตรวศุตม์ กลุ่มรักษ์ดอยสุทพ-ปุย นางคำศรีดา แป้นไทย กลุ่มเฮาฮักเชียงใหม่ รศ.สุจิตร พิตรากูล นักวิชาการด้านธรณีวิทยา นายบัณรส บัวคลี่ ภาคีคนฮักเจียงใหม่

สำหรับกิจกรรมในช่วงเช้า มีได้สมาชิกปั่นจักรยานวันอาทิตย์ จำนวน 200 คัน เข้าร่วมปั่นจักรยานเพื่อรณรงค์ให้คนเชียงใหม่ออกมาชุมนุม รถสามล้อตุ๊ก ๆ 50 วิ่งรอบคูเมืองเชียงใหม่ นอกจากนี้ ได้มีขบวนมวลชนพร้อมกับได้ถือผ้าลิปบี้นสีเขียว และผ้าขนาดใหญ่ พร้อมป้ายเขียนข้อความต่าง ๆ นานา เช่นรื้อทิ้ง ย้ายออกจากพื้นที่ และคืนผืนป่าให้กับเชียงใหม่ โดยมีมวลชนที่มาจากต่างอำเภอและตัวตัวเมืองเชียงใหม่ เกือบ 2,000 คน ได้เดินจากประตูช้างเผือก ประตูสวนดอก ประตูเชียงใหม่ และประตูสวนปรุงมาบรรจบกันบริเวณลานประตูท่าแพ จากนั้นมีกิจกรรมสาบแช่ เผ่าพริกเผาเกลือ ให้เกิดมีอัปมงคลในพื้นที่บ้านพักตุลาการ ภายในเร็ววันนี้ ซึ่งเป็นตามความเชื่อของชาวล้านนา ให้เกิด ภัยพิบาติแก่ผู้ที่เข้าพักอาศัยในพื้นที่ทั้งหมด

สำหรับข้อเรียกข้อของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพได้จัดชุมนุม ลานประตูท่าแพในครั้งนี้ ขอให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการแก้ปัญหาตามที่ได้มีข้อตกลงกันไว้เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ซึ่งจนบัดนี้ผ่านระยะเวลาเกือบ 4 เดือนยังไม่มีผลชัดเจน มิหนำซ้ำยังส่อว่าข้อตกลงบางข้อก็ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง การที่กรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) มีมติให้ย้ายที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค5 กับบ้านพักไปยังจังหวัดเชียงราย เป็นความความคืบหน้าสำคัญหนึ่ง ซึ่งสมควรจะทำให้สถานการณ์เป็นไปในทางดี แต่ทว่ากลับนำมาซึ่งความอึมครึมยิ่งกว่าเดิม เพราะมีข่าวว่าอาจจะมีหน่วยงานอื่นเข้าไปใช้พื้นที่บ้านพักและอาคารชุดแทน

ดังนั้นเพื่อป้องกันมิให้มีการเข้าสวมแทน ในการชุมนุมครั้งนี้ทางเครือข่ายจึงทำพิธีสาปแช่งผู้ที่จะเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่บ้านพัก 45 หลังและอาคารชุดที่กันแนวเขตไว้ และขอให้รัฐบาลเร่งประสานงานกับสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรม เพื่อย้ายผู้เข้าพักอาศัยในอาคารชุด 9 หลังลงมาอยู่ในอาคารชุดบนพื้นราบนอกเขตที่รัฐบาลประกาศมิให้มีผู้อยู่อาศัยเพื่อจะสามารถดำเนินการฟื้นฟูภาพสิ่งแวดล้อมต่อไป
ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าและประชาชนที่ร่วมชุมนุม ขอเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาข้อตกลงและเร่งรัดให้มีการคืนพื้นที่บ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลังให้กับกรมธนารักษ์โดยเร็ว และไม่ให้มีผู้ใดอยู่อาศัยหรือเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมๆ กับขอให้เร่งพิจารณาตัดสินใจข้อเสนอให้รื้อย้ายบ้านพักและอาคารชุดที่คณะกรรมการแก้ปัญหาระดับจังหวัดได้มีมติเสนอไปโดยเร็วที่สุด ตลอดเวลาเกือบ 4 เดือนผ่านมา เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนดด้วยดี แม้ว่าจะมีอุปสรรคปัญหาและการไม่ให้ความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐบาลหลายต่อหลายครั้ง

ขณะนี้ ก.บ.ศ.ได้มีมติย้ายที่ที่ทำการและบ้านพักไปแล้ว อีกทั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดก็มีมติและดำเนินการตามที่มอบหมายครบถ้วน เหลือแต่เพียงการตัดสินใจของรัฐบาลเท่านั้น ได้โปรดอย่าได้มีการยืดเยื้อล่าช้าออกไปอีกเลย รัฐบาลต้องเร่งตัดสินใจรื้อย้ายอาคารบ้านพักส่วนที่ล้ำเข้าไปในแนวป่าเชิงดอยสุเทพตามที่กันแนวไว้โดยเร็ว เพราะยิ่งยืดเยื้อไปปมปัญหานี้อาจจะยกระดับขึ้นกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรงในอนาคตอันใกล้นี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น