วิถีแบ่งปันกิน อยู่ เที่ยว ลุยเจาะตลาดเชียงใหม่

นับตั้งแต่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้น ส่งผลให้มีความเปลี่ยนแปลงของระบบสังคมมนุษย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆตามมามากมาย หนึ่งในนั้นคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเรา จะเดินทางไปไหน ก็เรียกใช้บริการรถทุกประเภท ยิ่งกว่าราชรถมาเกยถึงหน้าบ้าน

แม้บริการดังกล่าวจะยังคงท้าทายระเบียบกฎหมายในไทยกับบางรูปแบบบริการ เช่น แกร๊ป คาร์ ,อูเบอร์ และหากจะรับประทานเมนูสุดโปรด ก็เลือกได้ทุกความต้องการ ขอเพียงมีถนนเข้าถึงจะช๊อปปิ้ง เลือกซื้อสินค้า สิ่งของต่างๆสามารถสั่งซื้อผ่านตลาดออนไลน์ที่มีกันสารพัดร้านค้า และช่องทางส่งตรงถึงบ้าน โดยเลือกจ่ายล่วงหน้าหรือเมื่อรับสินค้าแล้ว ได้ทั้งนั้นเช่นเดียวกับ การเลือกจะเดินทางไปพักผ่อน ท่องเที่ยว ทั่วทุกมุมโลก ในราคาที่สามารถจ่ายได้ ถ้าจะโดยสารเครื่องบินก็มีโปรโมชั่น นาทีทอง ตั๋วราคาถูก ให้จอง หากจะหาที่พักราวไปพักบ้านเพื่อน ก็มีให้เลือกทุกราคา ทุกทำเล พร้อมคนนำเที่ยว ในราคาพิเศษ

รูปแบบดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อกิจการ ธุรกิจในกลุ่มที่ไม่ปรับตัวรับกระแสความเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างที่เห็นกันง่ายๆในแวดวงการท่องเที่ยวบ้านเราขณะนี้คือ การล้มหายตายจากไปของเกสต์เฮ้าท์ โรงแรม ที่พักแบบเดิมๆ เพราะ มีการแบ่งปันห้องพักที่เลือกได้ ทั้งบ้านพัก คอนโดฯ ,โฮมสเตย์ รีสอร์ท หรือแม้กระทั่ง ศาลาวัด ขอย้ำว่า วัดในเมืองใหญ่ๆในปัจจุบัน แตกต่างจากภาพที่คุ้นชินในอดีต ด้วยมีความทันสมัย ไม่ต่างจากโรงแรม มิหนำซ้ำอยู่ในใจกลางของเมือง ทำเลแหล่งเที่ยวยอดนิยมเป็นส่วนใหญ่
รูปแบบบริการ ที่โด่งดังในตลาดขณะนี้ มีไม่กี่ราย แม้จะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ที่มองหาที่พักราคาถูกทั่วโลก แต่โรงแรม ที่พัก เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ทั่วโลก ล้วนได้รับผลกระทบด้านรายได้อย่างหนัก เมื่อกลุ่ม เวปไซค์ แบบแบ่งปัน กิน อยู่ เที่ยว เข้ามาลุยเจาะตลาด

ส่งผลให้เกิดแรงต้านจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ เรียกร้องให้ภาครัฐฯเข้าแทรกแซงกลยุทธ์ทางการตลาดของ เวปไซค์เหล่านี้ ด้วยวิธีการหากเจ้าของบ้าน คอนโดฯ หรืออพาร์ทเม้นท์ เข้าร่วมธุรกิจดังกล่าว จำเป็นต้องเสียภาษี รวมไปถึงต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการเช่นเดียวกับโรงแรม ในไทยธุรกิจดังกล่าวยังถือว่าผิดกฎหมาย แม้จะเป็นกลุ่มธุรกิจแบบใหม่ ของคนรุ่นใหม่ การแชร์ทรัพยากร (ที่พัก) ซึ่งเปิดให้บริการทั้งในรูปแบบเว็บไซต์ รวมถึงแอพพลิเคชัน ไอเอส และ แอนดรอยน์บนมือถือ มีสถิติที่น่าสนใจว่าตั้งแต่เว็บไซค์เหล่านี้เปิดตัวเมื่อ 10 ปีแล้วมีผู้เข้าพักทั่วโลกกว่า 25 ล้านคน และกว่า 1 ล้านที่พักที่เปิดให้บริการ ในเมืองกว่า 34,000 เมือง ใน 190 ประเทศ พร้อมทั้งมีปราสาทที่เปิดให้เข้าพักได้จริงกว่า 600 แห่งด้วย

ในไทยนั้นมีที่พักที่มากกว่า 1,000 แห่ง และเชียงใหม่มีมากกว่า 2-3 ร้อยแห่ง ทั้งแบบห้องรวม ห้องส่วนตัว บ้านทั้งหลัง ซึ่งมีสารพัดทางเลือกเข้ามาอุดรอยรั่วในตลาด เช่น ดินเน่อร์ยามค่ำ ปาร์ตี้แบบหมู่คณะ พักกับครอบครัวแบบไหน ต้องการอะไรบ้าง เป็นต้น

ประสบการณ์เที่ยวพักผ่อนที่เป็นเอกลักษณ์ สไตล์การออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ของธุรกิจใหม่ๆเหล่านี้ น่าจะทำให้ ห้างฯ,ร้านค้า,ได้เวลาโฮสเทล โรงแรม ที่พัก บรรดาเกสต์เฮ้าส์ ต่างต้องปรับตัว ไม่เช่นนั้นก็ต้องขายกิจการ หันไปทำอย่างอื่นแทน

ร่วมแสดงความคิดเห็น