รวบ 2 สาวชาวลาหู่ ค้ายาบ้า 60,000 เม็ด สารภาพรับจ้างขนจากนายตี๋ ตำรวจเร่งขยายผลต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 2 ก.ย. 61 พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโคภัย ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ชุดปราบปรามยาเสพติดของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.ทรงกฤช ออนตระไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.ต.ทมพการ จินดาธรรม หัว ชปส (ชุดปราบปรามยาเสพติดเชียงใหม่)ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พร้าวเชียงใหม่ มี พ.ต.อ.วิชาธร ผิวพรรณ ผกก.สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ นำกำลังเข้าล่อซื้อจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเขตท้องที่ สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการล่อซื้อยาเสพติดจากขบวนการพวกนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมในการลำเลียงค้ายาเสพติดมายาวนาน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด และตำรวจท้องที่ ได้ใช้เงินในการล่อซื้อครั้งนี้จำนวน 750,000 บาท ยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ด ซึ่งสำเร็จ กลุ่มชบวนการค้ายาเสพติดได้นำยาเสพติดไปวางไว้บริเวณจุดหลักกิโล ที่ 35 พร้าว 5 กม.เวียงป่าเป้า 48 กม.โดยกลุ่มยาเสพติดได้ติดต่อขอรับเงินทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดล่อซื้อได้นัดให้กลุ่มค้ายาเสพติดมารับเงินที่ห้องหมายเลข 10 โรงแรมภูพร้าว ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งผู้ต้องหาก็ได้มารับเงินตามที่ได้นัดไว้โดยเป็นหญิง 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กค 7091 เชียงใหม่ มายังโรงแรมและผู้ต้องหาทั้งสองก็ได้บอกจุดซุกซ่อนยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุประสานไปยังชุดเฝ้าจุดให้ไปตรวจสอบก็พบยาบ้าจำนวน 60,000 เม็ดที่ผู้ต้องหาทั้งสองแจ้ง ไว้จึงได้ตรวจยึดของกลางและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ทันที

ทราบชื่อต่อมาว่า นางสาวนาดอ ลาหู่ อายุ 27 ปี บ้านเดิมเลขที่ 33 หมู่ 1 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย นางสาวเอ(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี บ้านเดิมเลขที 219 หมู่ 1 ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตั้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดยาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดี

ผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้รับจากจากนายตี๋ เป็นชาวเขาเผ่า “ลาหู่” จ.เชียงราย จ้างพวกตนให้ขนยาบ้ามาซุกไว้ยังจุดเกิดเหตุ และไปรับเงินค่ายา โดยจ้างพวกตนในวงเงิน 5,000 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตนใช้ในการก่อเหตุนั้น เป็นรถของนายจะสอ ไอ่หม่อ อายุ 25 ปี บ้านอยู่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ทางตำรวจจะได้ ตรวจเช็คขยายผลเบื้องต้นได้ยึดจักรยานยนต์ไว้เป็นของกลางในการใช้ก่อการกระทำผิด

สำหรับการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ในครั้งนี้ได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข้อมูลจากนักโทษหญิงในเรือนจำผ่านทางทนายความมาว่า อยากจะทำความดีให้กับบ้านเมืองโดยได้แจ้งเบาะแสขบวนการค้ายาเสพติดให้กับทางทนายฝากไปบอกให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งก็ได้ผล ทางตำรวจได้ทำการตรวจเช็คและทำการล่อซื้อ กระทั่งสามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้สำเร็จ ตามที่ได้เบาะแสมาดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลต่อเนื่องต่อไปเพื่อสาวให้ถึงตัวการใหญ่อีกครั้ง