คดีพลิก ฝ่ายโซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.ออกชี้แจง กรณีหนุ่มโพสต์เฟซเพื่อนถูกตำรวจทำร้าย เผยเจ้าตัวเมาขาดสติแถมขัดขืน จนท.

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “โฉมงาม กับอสูร” ได้โพสข้อความพร้อมรูปภาพ กรณีอ้างว่าเพื่อนของตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย จนเป็นแผลฉกรรจ์ แชร์และส่งต่อกันไปยังสื่อสังคมออนไลน์ เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ช้างเผือก จว.เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 9 ก.ย.51 ที่ผ่านมา และได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกไปตามที่ปรากฎเป็นข่าวแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางฝ่ายโซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. ได้ทำการประสานไปยังพื้นที่ สภ.ช้างเผือก ได้รับทราบข้อมูลจากทาง พ.ต.อ.อมรชัย ปัญญา ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้ให้ข้อมูลถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์มายังบริเวณจุดตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของ สภ.ช้างเผือก ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนศิริธร ต.ช้างเผือก อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ปรากฏว่าผู้ต้องหาหยุดรถและเปลี่ยนให้เพื่อนผู้หญิงที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกันเป็นคนขับขี่แทน เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นเหตุการณ์ จึงได้ให้หยุดรถและตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ต้องหา พบว่าตัวของผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บนั้นมีแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตรวจวัดได้ 129 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสถานีตำรวจ แต่ผู้ต้องหากลับขัดขืนการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ได้โวยวาย และพยายามจะปัสสาวะที่หน้าบ้านของผู้อื่นบริเวณจุดตรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันห้ามและยังขัดขืนอยู่ จนต้องใช้กุญแจมือพันธนาการผู้ต้องหาเพื่อนำตัวมายังสถานีตำรวจ ซึ่งมีผู้ต้องหารายอื่นอีก 4 ราย ไปยังสถานีตำรวจด้วย

เมื่อมาที่สถานีตำรวจแล้ว ผู้ต้องหาเพียงรายเดียวที่ไม่ยอมลงจากรถยนต์ของเจ้าหน้าที่สายตรวจ และทำการโวยวาย ขัดขืน ด้วยอาการมึนเมา ขณะที่ยังใส่กุญแจมืออยู่ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการควบคุมลงจากรถในลักษณะที่ผู้ต้องหาดิ้นขัดขืนจนเซไปชนกับป้ายที่อยู่หน้าสถานีตำรวจ ซึ่งเป็นตัวอักษรโลหะยกนูน ตามภาพที่ปรากฎ จนได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บ และขณะทำการรักษาที่โรงพยาบาล ตัวผู้ต้องหาก็พยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
ในทางคดี พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเมาสุราประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฏหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาเป็นผู้ขับขี่รถในขณะเมาสุราตาม พ.รบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และข้อหาไม่แสดงบัตรประชาชนต่อเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.บัตรประชาชน 2526 อย่างไรก็ตาม ในกรณีผู้โพสข้อความ พ.ต.อ.อมรชัย อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนดำเนินการตรวจสอบต่อไป
CR.ภาพและข้อมูลจากเพจ : ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.

ร่วมแสดงความคิดเห็น