ยาเสพติดทะลักหนัก ภ.5 แถลงตรวจยึดครั้งมโหฬาร ยาบ้า 7 ล้านกว่าเม็ด ไอซ์อีก 500 กก.

ยาเสพติดทะลักหนัก ภ.5 แถลงตรวจยึดครั้งมโหฬาร ยาบ้า 7 ล้านกว่าเม็ด ไอซ์อีก 500 กก. ด้าน ผบช.ภ.5 สั่งคมเข้มทุกด่านตรวจ ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชม.

เมื่อช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 9 ก.ย.61 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ,พล.อ.พงค์มิตร ปินปันคง เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสนอง บุญพะยอม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 6 ต.หัวดง อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ และตรวจยึดของกลางยาบ้ารวมทั้งสิ้นประมาณ 7,740,000 เม็ด และไอซ์อีก 500 กิโลกรัม พร้อมทั้งรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-5985 ลำปาง ซึ่งสามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาบริเวณ ด่านตรวจกาญจนาภิเษก บ้านสบบง หมู่ 10 ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา ทั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 กองกำลังผาเมือง ได้ทำการสกัดและตรวจค้นรถบรรทุกสิบล้อ หมายทะเบียน 70-5985 ลำปาง ที่มุ่งหน้ามาจากทางอำเภอเทิง จังหวัดเเชียงรายผ่านจุดตรวจดังกล่าว จากการตรวจค้นพบกระสอบบรรจุยาบ้า 43 กระสอบ จำนวน 7,740,000 เม็ด และกระสอบบรรจุยาไอช์ รวมน้ำหนัก 500 กิโลกรัม บรรทุกท้ายรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวคนขับและตรวจยึดของกลางทั้งหมด ขณะเดียวกัน จากการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนขับรถสิบล้อให้การรับสารภาพว่า มีชายไม่ทราบชื่อ ว่าจ้างให้ขนยาเสพติดทั้งหมดจากจังหวัดเชียงราย เพื่อนำไปส่งที่จังหวัดอยุธยา แต่ขณะมาถึงพื้นที่ จ.พะเยานั้นได้เจอกับด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ และถูกจับกุมได้ในที่สุด ทางด้าน พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า การจับกุมและตรวจยึดของกลางยาเสพติดในครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งมโหฬารในพื้นที่จังหวัดพะเยา และในพื้นที่ภาคเหนือ โดยจะเห็นได้ว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดนั้นได้ปรับเปลี่ยนวิธีการลำเลียงยาเสพติดโดยการลำเลียงมาทีเดียวจำนวนมากๆ ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จึงต้องมีการคุมเข้มตั้งด่านตรวจและจุดสกัดกั้นอย่างหนาแน่นขึ้น โดยเพิ่มมาตรการการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ตั้งจุดตรวจสำคัญที่เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดสำคัญๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเห็นได้ว่าการปฏิบัติการนั้นได้ผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในหลายจุดของพื้นที่ภาคเหนือนั้นมีเส้นทางที่ติดชายแดนและประเทศเพื่อนบ้านหลายเส้นทางจึงทำให้กลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติเหล่านี้ยังคงมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องมีการคุมเข้มและป้องกัน โดยขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ช่วยกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้นั้นทราบว่ายังมีกลุ่มขบวนการที่อยู่เบื้องหลังอีก และยังไม่ทราบว่าเป็นของกลางชุดเดียวกันกับที่สามารถตรวจยึดได้ประมาณ 4 ล้านเม็ดก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งต้องรอทำการตรวจสอบและขยายผลเพิ่มเติมอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากยาเสพติดล็อตนี้สามารถหลุดลอดการตรวจจับของทางเจ้าหน้าที่ไปได้แล้วนั้น จะมีมูลค้าหลายพันล้านบาท และยังสร้างปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดเพิ่มขึ้นในประเทศอีกด้วย