กรมชลประทานเฝ้าระวังเขื่อน เตรียมรับพายุโซนร้อน “บารีจัต” ต่อด้วย พายุไต้ฝุ่น “มังคุด”

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนพายุโซนร้อน “บารีจัต” (BARIJAT) บริเวณทะเลจีนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะฮ่องกง และเกาะไหหลำ ประเทศจีน ในช่วงวันที่ 13-14 ก.ย.2561 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น
ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วน พายุไต้ฝุ่น “มังคุด” (MANGKHUT) จะส่งผลให้ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย.2561 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจมีผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่มสำหรับสถานการณ์น้ำ ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปัจจุบัน(12 ก.ย. 61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันประมาณ 57,000 (57,659) ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 76 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 33,000 (33,728) ล้าน ลบ.ม. สามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 18,000 (18,443) ล้าน ลบ.ม. ในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เฉพาะ 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 17,000 (17,071) ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 69 มีปริมาณน้ำใช้การได้ 10,000 (10,375) ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ 4 เขื่อนหลัก ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 7,800 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่ง ติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำท่าอย่างใกล้ชิด รวมทั้งตรวจสอบระบบและอาคารชลประทาน ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา พร้อมบูรณาการกับ ผวจ. ปภ.จ. ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ ได้อย่างทันท่วงที

ร่วมแสดงความคิดเห็น